WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

สนพ.ดึงระบบ Demands Response ควบคุมการใช้ไฟฟ้ากลุ่มอุตสาหกรรม

    สนพ. นำร่องโครงการสาธิตระบบ Demand Response ในพื้นที่อุตสาหกรรม โชว์เทคโนโลยีควบคุมระบบไฟฟ้าอัตโนมัติ หวังช่วยลดใช้ไฟฟ้าช่วยพีค

     นายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ในปี 2556 ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีการใช้ไฟฟ้า 164,341 กิกะวัตต์ชั่วโมง เพิ่มขึ้นจากปีก่อนประมาณร้อยละ 1.6 ตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งการใช้ไฟฟ้าในภาคอุตสาหกรรมถือเป็นสาขาหลักที่มีการใช้ไฟฟ้าสูงสุด คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 44 ของการใช้ไฟฟ้าทั้งประเทศ หรือประมาณ 72,536 กิกะวัตต์ชั่วโมง โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ใช้ไฟฟ้ามากที่สุดคือกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตอาหารใช้ไฟฟ้าสูงถึง 9,697 กิกะวัตต์ชั่วโมง รองลงมาคือกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็กและโลหะพื้นฐาน กลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตสิ่งทอ กลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์

    และเพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานไฟฟ้าในกลุ่มอุตสาหกรรม ทาง สนพ. จึงได้ดำเนินโครงการ 'สาธิตระบบ Demand Response ในพื้นที่อุตสาหกรรม'ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เพื่อศึกษาศักยภาพกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมในเรื่องความพร้อมในการใช้เทคโนโลยี Demand Response ผ่านระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะช่วยควบคุมและปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพได้อย่างอัตโนมัติ โดยมีสมาคมพันธมิตรไทยเพื่อส่งเสริมการใช้ระบบพลังงานแบบกระจายศูนย์ (WEDE THAI) เป็นผู้ดำเนินการ

    ระบบ Demand Response เป็นกลไกที่ให้ผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถจัดการการใช้ไฟฟ้าของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยกตัวอย่างเช่น ระบบจะแจ้งให้ผู้ใช้ไฟฟ้ารู้ว่าเวลาใดที่ผู้คนในประเทศมีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (พีค) หรือ ช่วงเวลาใดที่ใช้ไฟฟ้าแล้วจะมีอัตราค่าไฟแพง โดยข้อมูลดังกล่าวจะช่วยจูงใจให้ผู้ใช้ไฟฟ้าหาทางลดการใช้ไฟฟ้าของตนเองลง ซึ่งในแต่ละปีจะมีการหยุดซ่อมบำรุงแหล่งก๊าซธรรมชาติในพื้นที่ต่างๆ ทำให้กำลังการผลิตไฟฟ้าอาจไม่เพียงพอต่อความต้องการ ดังเช่นในปี 2557 แหล่งก๊าซฯ เจดีเอ A-18 จะหยุดจ่ายก๊าซฯ ระหว่างวันที่ 13 มิ.ย. - 10 ก.ค.2557 (28 วัน) ทำให้กำลังผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าจะนะ หายจากระบบทันที 710 เมกะวัตต์ ส่งผลให้กำลังผลิตในพื้นที่เหลือประมาณ 1,900 เมกะวัตต์ และอาจไม่เพียงพอกับความต้องการแม้จะมีการส่งไฟฟ้าจากภาคกลางลงไปช่วย 700 เมกะวัตต์ ก็ตาม ดังนั้น ระบบ Demand Response จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดไฟตก หรือไฟดับ เพราะผู้ประกอบการสามารถวางแผนเพื่อควบคุมให้เกิดการลดใช้ไฟฟ้าหรือหยุดใช้ไฟฟ้าในช่วงพีคได้ทันที ซึ่งจะไม่สร้างความเสียหายให้กับระบบเศรษฐกิจของประเทศ อีกทั้งยังถือเป็นการวางแผนแก้ปัญหาในระยะยาวด้วยนายเสมอใจ กล่าว

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!