- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Thursday, 18 June 2015 00:05
- Hits: 1996
เวสต์เท็กซัสปรับเพิ่มขึ้นจากความกังวลทางด้านพายุโซนร้อนในสหรัฐฯ ในขณะที่เบรนท์ปรับลดลงจากอุปทานล้นตลาด
+ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับตัวขึ้นหลังพายุโซนร้อนบิลล์ (Bill) ซึ่งถือเป็นพายุลกแรกของปีก่อตัวขึ้นและขึ้นฝั่งที่รัฐเท็กซัส ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักและลมค่อนข้างรุนแรงในวันอังคารที่ผ่านมา ทำให้ตลาดเกิดความกังวลต่อการผลิตน้ำมันดิบที่อาจจะปรับลดลง อย่างไรก็ดี ยังไม่มีรายงานผลกระทบทางด้านการผลิตหรือความเสียหายที่เกิดจากพายุโซนร้อนในขณะนี้
- ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบนท์ปรับตัวลดลง จากปริมาณน้ำมันในตลาดที่ยังคงอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับตลาดยังคลายความกังวลเรื่องความไม่สงบในเยเมนลงหลังมีการเปิดการประชุมเพื่อเจรจายุติความขัดแย้งในประเทศ นอกจากนี้ตัวแทนบริษัทน้ำมันแห่งชาติลิเบีย ยังอออกมาคาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันในลิเบียจะปรับเพิ่มขึ้นอีกราว 200,000 บาร์เรล จากระดับการผลิตปัจจุบันที่ 432,000 บาร์เรล ขณะที่ส่งออกปัจจุบันที่ 356,000 บาร์เรล ก็มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
+ สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานของสหรัฐฯ (API) รายงานปริมาณนํ้ามันดิบคงคลังปรับลดลงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่าปรับลดลง 2.9 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 470.2 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับลดลงที่ 1.7 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ ปริมาณนํ้ามันเบนซินคงคลังคงคลังก็ปรับลดลงที่ 2.9 ล้านบาร์เรล มากกว่ากับที่ตลาดคาดการณ์ไว้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงจับตาการประกาศตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ โดยสำนักงานพลังงานสากล (EIA) ในคืนนี้ว่าจะมีทิศทางอย่างไร
+/- ตลาดยังคงจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ที่จะเสร็จสิ้นในวันนี้ ว่าจะมีการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายหรือไม่ หลังเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องโดยเฉพาะในตลาดแรงงาน อย่างไรก็ตามธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ออกโรงเตือนสหรัฐฯ ว่าการฟื้นตัวของสหรัฐฯ อาจยังไม่มีเสถียรภาพเพียงพอที่จะเร่งรีบในการขึ้นอัตราดอกบี้ยในปัจจุบัน
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ จากแรงซื้อในภูมิภาคที่ยังมีอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการนำเข้าจากทางด้านอินโดนิเซียและตะวันออกกลาง ก่อนที่จะเข้าฤดูถือศีลอดของมุสลิม ช่วยสนับสนุนราคาน้ำมันเบนซินในตลาด
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากอุปทานน้ำมันดีเซลที่อยู่ยังคงในระดับสูง หลังโรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งกลับมาจากการปิดซ่อมบำรุงประจำปี ขณะที่ผู้ผลิตน้ำมันในเอเชียยังขาดโอกาสในการส่งออกน้ำมันดีเซลไปยังยุโรป เนื่องจากอุปทานในยุโรปยืนอยู่ในระดับสูงเช่นกัน หลังมีการส่งออกปริมาณมากมาจากโรงกลั่นใหม่ในตะวันออกกลาง
ทิศทางราคาน้ำมันดิบ
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 58-63 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 61-66 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ในวันที่ 16 – 17 มิ.ย. ว่าจะมีการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายหรือไม่อย่างไร ซึ่งจากการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ต่างมองว่าในการประชุมครั้งนี้จะยังไม่มีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย แม้ว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะเริ่มมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นก็ตาม และอาจปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ก.ย. อย่างไรก็ตาม คาดว่ากระแสข่าวของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยน่าจะส่งต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ รวมถึงส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันอย่างผันผวน
ภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาดที่คาดว่าจะยังคงกดดันราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้ หลังการประชุมโอเปก เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ที่ผ่านมา มีมติคงโควต้าการผลิตน้ำมันดิบที่ระดับเดิมคือ 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาดจากผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกที่ยังคงปริมาณการผลิตอยู่ในระดับที่สูงเช่นกัน โดยข้อมูลล่าสุดในเดือน พ.ค. พบว่า ซาอุดิอาระเบียผลิตน้ำมันดิบอยู่ในระดับที่สูงประมาณ 10.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง หลังโรงกลั่นกลับมาจากการปิดซ่อมบำรุง ประกอบกับโรงกลั่นหลายแห่งปรับเพิ่มกำลังผลิตขึ้นเพื่อรองรับความต้องการใช้ที่คาดว่าจะเพิ่มมากขึ้นในช่วงฤดูการท่องเที่ยวหน้าร้อนของสหรัฐฯซึ่งจะอยู่ระหว่างเดือนมิ.ย. –ส.ค. ของทุกปี
ติดตามการเจรจาแก้ไขปัญหาวิกฤติหนี้กรีซว่าจะเป็นไปในทิศทางใด หลังกรีซมีกำหนดชำระหนี้กับ IMF งวดถัดไปกว่า 1.6 พันล้านยูโร ภายในสิ้นเดือน มิ.ย.นี้ และหลายฝ่ายยังคงกังวลว่ากรีซมีแนวโน้มที่จะขาดสภาพคล่องและไม่สามารถชำระหนี้ IMF ทันกำหนด ซึ่งอาจทำให้กรีซต้องเผชิญกับการเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้ได้