- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Thursday, 11 June 2015 21:38
- Hits: 1702
ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มเป็นวันที่สองติดต่อกันหลัง EIA ประกาศปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ลด 6.8 ล้านบาร์เรล
+ราคาน้ำมันดิบเบรนท์และเวสต์เท็กซัสปรับเพิ่มราว ร้อยละ 1.3 และ 2.1 ตามลำดับ หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ประกาศปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯสิ้นสุด ณ สัปดาห์ก่อนหน้า ปรับตัวลดลงราว 6.8 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับลดลงเพียง 1.7 ล้านบาร์เรล และเป็นการปรับตัวลดลงมากที่สุดนับแต่ ก.ค. 2557 หลังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ของโรงกลั่นน้ำมันดิบเพื่อนำไปผลิตเป็นน้ำมันเบนซิน ปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง ณ จุดส่งมอบคุชชิ่ง โอกลาโฮมา ปรับตัวลดลงเช่นกันที่ 1.02 ล้านบาร์เรล
+ นอกจากนี้นาย John Kilduff ผู้ถือหุ้นบริษัท New York Energy Hedge Fund Again Capital คาดการณ์ว่าความต้องการใช้น้ำมันดิบและอุปสงค์น้ำมันเบนซินในสหรัฐฯ จะอยู่ในระดับที่ดีไปอีกอย่างน้อยสองเดือน ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังที่ปรับลดราว 2.9 ล้านบาร์เรล ตามการรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA)
- อย่างไรก็ดีนาย Jim William นักเศรษศาสตร์ด้านพลังงานของบริษัท WTRG Economics ณ กรุงลอนดอน กล่าวว่าการลดลงของปริมาณน้ำมันดิบสหรัฐฯ จะเกิดในช่วงสั้นๆ เท่านั้น จากแรงหนุนของอุปสงค์ในช่วงหน้าร้อน ขณะที่สหรัฐฯ ยังคงมีปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสะสมจากปลายปีที่แล้วอีกราว 85 ล้านบาร์เรล
+ กลุ่มประเทศโอเปก (OPEC) คาดการณ์ว่าสถานการณ์ปัญหาอุปทานน้ำมันที่ล้นตลาดจะปรับตัวดีขึ้นหลังอุปสงค์การใช้น้ำมันโลกเติบโตมากกว่าที่คาดการณ์และมากกว่าตัวเลขปี 2557 ประกอบกับกำลังการผลิตน้ำมันโลกของประเทศนอกกลุ่มโอเปก (Non-OPEC) ชะลอตัวลง โดยเฉพาะจากประเทศสหรัฐฯ หลังมีต้นทุนการผลิตที่สูงกว่ากลุ่มประเทศโอเปก สอดคล้องกับที่สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) คาดการณ์ว่ากำลังการผลิตของสหรัฐฯ จะปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังราว 160,000 บาร์เรลต่อวัน ไปแตะระดับ 2.97 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในปี 2559 หลังเติบโตอย่างต่อเนื่องนับแต่ปี 2551อย่างไรก็ดี ยังคงคาดการณ์ว่ากำลังการผลิตจะกลับเติบโตอีกครั้งในปี 2560
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์จากของประเทศเวียดนามและศรีลังกา นอกจากนี้ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังของโรงกลั่นน้ำมัน Taiwan-CPC มีแนวโน้มปรับลดหลังต้องปิดซ่อม Residue Fluid Catalytic Craker ขนาด 80,000 บาร์เรล จากปัญหาทางเทคนิคบางประการ และจะสามารถกลับมาดำเนินการอีกครั้งได้ในวันที่ 17 มิ.ย.
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบดูไบ จากอุปสงค์ที่ดีในช่วงฤดูร้อนของตะวันออกกลาง อย่างไรก็ตาม อุปทานยังคงอยู่ในระดับสูงเนื่องจากโรงกลั่นน้ำมันกลับมาดำเนินการหลังปิดซ่อมบำรุง นอกจากนี้โรงกลั่นส่วนใหญ่และโรงกลั่นขนาดเล็กในประเทศจีนปรับเพิ่มกำลังการผลิตหลังค่าการกลั่นปรับตัวสูงขึ้น
ทิศทางราคาน้ำมันดิบ
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 56-63 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 61-66 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ติดตามรายงานสถานการณ์น้ำมันดิบประจำเดือน มิ.ย. โอเปก (10 มิ.ย.) และสำนักงานพลังงานสากล หรือ IEA (11 มิ.ย.) ว่าจะมีการปรับเพิ่มหรือลดคาดการณ์อุปสงค์-อุปทานน้ำมันในตลาดโลกอย่างไร ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง หลังโรงกลั่นกลับมาจากการปิดซ่อมบำรุง ประกอบกับโรงกลั่นหลายแห่งปรับเพิ่มกำลังผลิตขึ้นเพื่อรองรับความต้องการใช้ที่คาดว่าจะเพิ่มมากขึ้น ในช่วงฤดูการท่องเที่ยวหน้าร้อนของสหรัฐฯ ซึ่งจะอยู่ระหว่างเดือน มิ.ย. – ส.ค. ของทุกปี
นอกจากนี้จับตาปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่สัปดาห์ล่าสุดมีการปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หลังการผลิตมีแนวโน้มคงที่มาตั้งแต่เดือน เม.ย. ทั้งนี้ หลายฝ่ายมองว่าราคาน้ำมันดิบที่ฟื้นตัวเหนือระดับ 60-65 เหรียญฯ อาจเพิ่มความจูงใจให้ผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ กลับมาเพิ่มอัตราการผลิตน้ำมันดิบอีกครั้ง
ติดตามทิศทางของเศรษฐกิจของยูโรโซนและทิศทางการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจเพื่อแก้ไขภาวะเศรษฐกิจซบเซาและเงินฝืด หลังล่าสุดธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำที่ 0.05% ทั้งยังพร้อมเดินหน้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) มูลค่า 6 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน คิดเป็นวงเงินรวม 1.1 ล้านล้านยูโร จนกว่าจะเสร็จสิ้นโครงการใน เดือน ก.ย. ด้วย
การเจรจาแก้ไขปัญหาวิกฤติหนี้กรีซว่าจะเป็นไปในทิศทางใดต่อไป หลังล่าสุดกรีซขอเลื่อนการชำระหนี้งวดแรกของเดือน จำนวน 300 ล้านยูโรแก่ IMF ที่มีกำหนดจ่ายเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ออกไป โดยขอทบหนี้ที่ต้องจ่ายทั้งหมด 4 งวดมูลค่ารวม1,600 ล้านยูโร ไปจ่ายรวมกันครั้งเดียวภายในวันที่ 30 มิ.ย.แทน