สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปประจำสัปดาห์ที่ 1-5 มิ.ย. 58 และแนวโน้มสัปดาห์ที่ 8-12 มิ.ย. 58

Details: Category: พลังงาน; Published: Monday, 08 June 2015 19:49; Hits: 1616

สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปประจำสัปดาห์ที่ 1-5 มิ.ย. 58 และแนวโน้มสัปดาห์ที่ 8-12 มิ.ย. 58

สัปดาห์ ที่ผ่านมาราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) เพิ่มขึ้น 0.01 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลมาอยู่ที่ 63.90 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบดูไบ (Dubai) เพิ่มขึ้น 0.20 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลมาอยู่ที่ 61.98 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเวสท์เท็กซัสฯ (WTI) เพิ่มขึ้น 1.27 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 59.65 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันเบนซินออกเทน 95 เพิ่มขึ้น 0.55 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 83.14 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และน้ำมันดีเซลลดลง 0.26 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 75.71 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคาได้แก่

ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ

· Reuters รายงานปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของ OPEC ในเดือน พ.ค. 58 ที่ประเมินจากข้อมูลการขนส่งทางเรืออยู่ที่ 31.22 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 310,000 บาร์เรลต่อวัน และเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่เดือน ส.ค. 55 และ Goldman Sachs เห็นว่าปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของ OPEC และ Shale Oil มีเพียงพอรองรับการเติบโตของอุปสงค์น้ำมันโลกจนถึงปี 2568 แม้จะไม่มีการเพิ่มการผลิตจากแหล่งน้ำมันดิบในทะเลลึกของ Non-OPEC และโครงการ LNG

· กระทรวงพลังงานรัสเซียรายงานปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในเดือน พ.ค. 58 คงที่จากเดือน เม.ย. 58 ที่ 10.71 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 200,000 บาร์เรลต่อวัน สูงสุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่สหภาพโซเวียตล่มสลาย

· Algeria Press Service รายงานแหล่งผลิตน้ำมันดิบใหม่ Bir Seba ในแอลจีเรียมีกำหนดเริ่มการผลิตกลางเดือน ก.ค. 58 ด้วยปริมาณการผลิต 20,000 บาร์เรลต่อวัน และมีแผนเพิ่มเป็น 40,000 บาร์เรลต่อวัน ในปี 2562 ทั้งนี้แหล่งน้ำมันดังกล่าวดำเนินการโดย บริษัทน้ำมันแห่งชาติแอลจีเรีย Sonatrach (25%), PTTEP (35%) และ Petrovietnam (40%)

· Organization for Economic Co-operation and Development (OECD) ปรับลดการคาดการณ์อัตราการของขยายตัวเศรษฐกิจโลก (GDP) ปีนี้และปีหน้า จะขยายตัว 3.1% และ 3.8% ลดลงจากคาดการณ์เมื่อเดือน มี.ค.58 ที่ 4.0% และ 4.3% ตามลำดับ เพราะการว่างงาน,ค่าจ้างลดลง และ การลงทุนที่ยังซบเซาต่อเนื่อง แม้ว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจจะได้รับปัจจัยหนุนจากมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน และราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง

ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก

· Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 29 พ.ค. 58 หยุดดำเนินการ 13 แท่น มาอยู่ที่ 646 แท่น ลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 25

· Energy Information Administration (EIA) รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์ของสหรัฐฯสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 29 พ.ค. 58 ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 1.95 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 477.4 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล

· Commodity Futures Trading Commission (CFTC) ของสหรัฐฯ รายงานสถานะการลงทุนของสัญญาน้ำมันดิบ WTI ในตลาดซื้อขายล่วงหน้า NYMEX ที่นิวยอร์กและ ICE ที่ลอนดอน สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 26 พ.ค. 58 กลุ่มผู้จัดการกองทุนปรับสถานะการซื้อสุทธิ (Net Long Positions) เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 1,453 สัญญา มาอยู่ที่ 254,600 สัญญา

· นาย Alexander Novak รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานรัสเซียกล่าวว่ารัสเซียไม่มีแผนจะตกลงกับ OPEC เพื่อกำหนดเป้าหมายการผลิตร่วมกัน ทั้งนี้ OPEC ไม่มีทีท่าลดเป้าหมายการผลิต ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน หากไม่ได้รับความร่วมมือจากประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่อยู่นอก OPEC เช่น รัสเซีย

· ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0.05% ตามความคาดหมาย และ ECB จะเดินหน้าการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) จนเสร็จสิ้นโครงการในเดือน ก.ย. 2559

แนวโน้มราคาน้ำมันดิบ

ราคาน้ำมันดิบปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ 5 มิ.ย. 58 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบ 2% โดยราคาน้ำมันดิบ ICE Brent ปิดตลาดที่ $63.31/BBL หลังระหว่างวันแตะระดับต่ำสุดที่ $60.94/BBL เนื่องจากผู้ค้าที่มีมุมมองในเชิง Bullish ฉวยจังหวะหลังการประชุมกลุ่ม OPEC เข้าซื้อเพื่อทำกำไร ทั้งนี้การประชุมสามัญ OPEC เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 58 มีมติคงเพดานการผลิตน้ำมันดิบที่ 30 MMBD เช่นเดิม ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาน้ำมัน เนื่องจากช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีนักวิเคราะห์หลายสำนักคาดว่า OPEC อาจปรับเพิ่มเพดาน ดังกล่าว เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณการผลิต ณ ปัจจุบัน ซึ่งในเดือน พ.ค. 58 อยู่ที่ประมาณ 31.2 MMBD ซึ่งยังคงเป็นปริมาณที่ล้นตลาด ถึงแม้ว่าคาดการณ์อุปสงค์จะเพิ่มขึ้นกว่า 1 MMBD YoY ทางด้านผู้ผลิต Shale Oil ในสหรัฐฯ โดยบริษัท WPX Energy Inc. หนึ่งในผู้ผลิต Shale Oil รายใหญ่ในแหล่งผลิต Bakken ในรัฐ North Dakota มองว่าการตัดสินใจของกลุ่ม OPEC จะช่วยให้ราคาน้ำมันดิบอยู่ในระดับสมดุล นาย Lynn Helms ผู้นำ Department of Mineral Resources ของรัฐ เผยว่าผู้ผลิตกำลังปรับตัวเข้าสู่สมดุลใหม่ และรัฐ North Dakota จะกลายเป็น Swing Producer ของตลาดน้ำมันดิบโลก และในอนาคตอาจมี “Bakken Call” แทนที่ "Call-on-OPEC" ในปัจจุบัน ทางด้านเศรษฐกิจ นาย Jean-Claude Juncker ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) เรียกร้องให้กรีซยื่นข้อเสนอทางเลือกตามที่ให้คำมั่นไว้ เพื่อให้เกิดการปฏิรูปการเงิน และเพื่อให้การเจรจาเดินหน้าต่อไป

สัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันดิบ Brent, WTI และ Dubai จะเคลื่อนไหวในกรอบ 61 - 65 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 57 - 62 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และ 60 - 64 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ตามลำดับ

สถานการณ์ราคาน้ำมันเบนซิน

สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นจาก Hindustan Petroleum Corp. Ltd. (HPCL) ของอินเดียออกประมูลซื้อน้ำมันเบนซิน ปริมาณ 290,000 บาร์เรล ส่งมอบวันที่ 20-25 มิ.ย. 58 และ Indian Oil Corp. (IOC) ออกประมูลซื้อ Gasoline ปริมาณ 892,500 บาร์เรล ส่งมอบเดือน ก.ค. 58 สูงสุดของปี 58 อนึ่ง IOC เริ่มนำเข้า น้ำมันเบนซิน ตั้งแต่เดือน ก.พ. 58 ทั้งที่ปกติจะไม่นำเข้านัก เนื่องจากความต้องการใช้ภายในประเทศเพิ่มขึ้นขณะที่โรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งปิดซ่อมบำรุง ขณะที่ International Enterprise Singapore (IES) รายงานปริมาณสำรอง Light Distillate ของสิงคโปร์สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 3 มิ.ย. 58 ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 2.2 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 10.63 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตาม Platts รายงาน บริษัท Sinopec ของจีนสามารถผลิตน้ำมันเบนซินที่มีคุณสมบัติตรงตาม National Phase 5 specification Standard (ปริมาณกำมะถัน 10 ppm) ในสัดส่วน 70% ของกำลังการผลิตน้ำมันเบนซินทั้งหมด หรือคิดเป็น 900,000 บาร์เรลต่อวัน กอรปกับ Hindustan Petroleum Corp. Ltd. (HPCL) ยกเลิกการออกประมูลซื้อน้ำมันเบนซิน ปริมาณ 255,500 บาร์เรล ส่งมอบปลายเดือน มิ.ย. 58 อีกทั้ง Petroleum Association of Japan (PAJ) รายงานปริมาณสำรองน้ำมันเบนซิน ของญี่ปุ่นสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 30 พ.ค. 58 เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 1.66% มาอยู่ที่ 11.78 ล้านบาร์เรล

สัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันเบนซินจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 81.50 – 85.50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

สถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซล

สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นจาก Platts รายงานความต้องการน้ำมันดีเซล 500 ppm ในตะวันออกกลางแข็งแกร่งจากการสำรองน้ำมันดีเซลเพื่อรองรับการใช้งานช่วงฤดูร้อนและเทศกาลรอมฎอนโดย Saudi Aramco และ Egyptian General Petroleum Corporation (EGPC) ต้องการนำเข้าน้ำมันดีเซล ปริมาณรวมกว่า 1.6 ล้านบาร์เรล ส่งมอบเดือน ก.ค. 58 ขณะที่ Bloomberg รายงานผู้ส่งออกน้ำมันดีเซลของรัสเซียอาทิ Lukoil Gazporneft และ Surgut ส่งออกน้ำมันดีเซลจากท่า Primorsk ในรัสเซียเดือน มิ.ย. 58 ปริมาณ 343,500 บาร์เรลต่อวัน ลดลง จากเดือนก่อน 11,000 บาร์เรลต่อวัน และ PAJ รายงานปริมาณสำรอง Middle Distillate ของญี่ปุ่นสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 30 พ.ค. 58 ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 1.4% มาอยู่ที่ 30.83 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตาม Platts รายงานสถานการณ์ปัจจุบัน โรงกลั่นน้ำมันในเอเชียเหนือเร่งอัตราการกลั่นในช่วงที่ Crack ของ Gasoline อยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ Gasoil ออกมาสู่ตลาดมากตามไปด้วย ดังเห็นได้จากการที่บริษัท CPC ของไต้หวันออกประมูลขาย ขณะที่ IES รายงานปริมาณสำรอง Middle Distillate ของสิงคโปร์สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 3 มิ.ย. 58 เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 405,500 บาร์เรล มาอยู่ที่ 10.81 ล้านบาร์เรล