- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Friday, 05 June 2015 09:07
- Hits: 1697
'คปพ'ยื่นนายกฯ ให้ใช้ มาตรา 44 เปิดประมูลปิโตรเลียมรอบใหม่ เฉพาะแปลงที่มีศักยภาพสูงแก้พลังงานขาดแคลนใน 6 ปีข้างหน้า
เครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย (คปพ.) นำโดย นายปานเทพ พังพงษ์พันธ์ เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านนายจำเริญ ยุติธรรมสกุล รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาขาดแคลนก๊าซธรรมชาติใน 6 ปีข้างหน้า
โดยนายปานเทพ กล่าวว่า จากกรณีที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) ได้วางกรอบการศึกษารูปแบบการพิจารณาแปลงสัมปทานปิโตรเลียมที่รัฐบาลเห็นชอบแก่ผู้รับสัมปทานหลายบริษัทในแหล่งบงกชและเอราวัณ ภายใต้พรบ.ปิโตรเลียม พ.ศ. 2515 ซึ่งได้ต่ออายุไปและจะสิ้นสุดลงในปี 2565 และ 2566 อย่างไรก็ตาม ไม่มีเงื่อนไขให้รัฐบาลเข้าพื้นที่เพื่อทำการแทนหรือการโอนถ่ายการผลิตปิโตรเลียม ทำให้รัฐไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้ก่อนที่จะสิ้นสุดสัญญา ดังนั้น เมื่อสิ้นสุดสัญญาอาจทำให้เกิดการขาดช่วงและเกิดวิกฤตพลังงานได้เนื่องจากถือเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญของประเทศ
นายปานเทพ กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าวทำให้เห็นว่า ที่ผ่านมาขาดการวางแผนบริหารจัดการที่ดี ทำให้อำนาจต่อรองของบริษัทที่ได้รับสัมปทานสูงขึ้นกว่ารัฐ ทำให้รัฐต้องตัดสินใจเปิดสัมปทานรอบที่ 21 เพื่อหาพลังงานทดแทน โดยไม่ผ่านการประมูลหรืออาจจะถูกกดดันให้มีการต่ออายุการผลิตแก้ผู้ผลิตรายเดิม ดังนั้น คปพ. จึงเห็นว่ารัฐจะต้องสร้างเงื่อนไขที่ชอบทำ ให้อำนาจต่อรองกลับมาเป็นของรัฐ เพื่อรักษาผลประโยชน์สูงสุดของรัฐและประชาชน จึงเสนอให้นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราวประกาศหลักเกณฑ์เปิดประมูลแข่งขันในการผลิตปิโตรเลียมที่ใช้ระบบแบ่งปันผลผลิตเฉพาะแปลงที่มีศักยภาพสูง ทั้งนี้ ต้องกำหนดให้ผู้เข้าร่วมประมูลต้องยินยอมปรับปรุงเงื่อนไขของสัญญาสัมปทานเดิมของบริษัทตน เพื่อให้การผลิตดำเนินต่อไปโดยไม่ขาดตอน
รวมทั้ง ต้องมอบอุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆ ให้เป็นของกรรมสิทธิของรัฐและให้รัฐสามารถเข้าพื้นที่เพื่อรับมอบการโอนถ่ายการผลิตปิโตรเลียมก่อนหมดอายุสัมปทานและขอให้นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งให้นโยบายกระทรวงพลังงานปรับปรุงการอุดหนุนราคารับซื้อพลังงานหมุนเวียนให้เท่าเทียมกันทุกระบบ
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย