- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Thursday, 04 June 2015 22:49
- Hits: 2017
ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังคาดว่าโอเปกอาจมีมติคงกำลังการผลิตน้ำมันดิบในการประชุมศุกร์นี้
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์และเวสต์เท็กซัสปรับตัวลดลง หลังตลาดมีการคาดการณ์ว่าในประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 5 มิ.ย. 58 ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เพื่อเป็นการร่วมหารือและกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันนั้น กลุ่มโอเปกมีแนวโน้มที่จะยังคงกำลังการผลิตน้ำมันที่ระดับ 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งส่งผลให้ตลาดเกิดความกังวลด้านอุปทานน้ำมันดิบที่จะอยู่ในสถานการณ์ล้นตลาดในระยะยาว
+/- สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ (สิ้นสุด ณ วันที่ 29 พ.ค.) ปรับลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 477.4 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะปรับลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล ส่วนปริมาณน้ำมันดิบคลคลัง ณ จุดส่งมอบคุชชิ่งโอกลาโฮมา ลดลง 1.0 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 59.0 ล้านบาร์เรล ด้านน้ำมันเบนซินคงคลังลดลง 0.3 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 220.3 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือน ธ.ค. 57 และสวนทางกับที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำมันกลุ่มให้ความร้อนคงคลังปรับเพิ่มขึ้น 3.8 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 132.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น เพียง1.1 ล้านบาร์เรล
- ดัชนีภาคบริการสหรัฐฯ (ISM) ประจำเดือน พ.ค. 58 ปรับตัวลดลง 2.1 จุด มาอยู่ที่ระดับ 55.7 มากกว่าที่คาดว่าจะปรับตัวมาอยู่ที่ระดับ 57.8 อย่างไรก็ดี ดัชนีที่สูงกว่าระดับ 50 นับเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงสภาวะภาคบริการที่ยังสามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง
+ อัตราการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯ เดือน พ.ค. 58 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 201,000 ราย มากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 200,000 ราย ซึ่งเป็นสัญญาณสำคัญที่บ่งชี้ถึงสภาวะตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่มีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตาม อัตราการจ้างงานในเดือน เม.ย. ถูกปรับทบทวนเป็นปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับ 165,000 ราย จากเดิมที่รายงานว่าปรับพิ่มขึ้น 169,000 ราย
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปสงค์ในภูมิภาคที่ชะลอตัวลง อย่างไรก็ตามตลาดมีการคาดการณ์ว่าอุปสงค์ในภูมิภาคจะมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงก่อนเข้าเทศกาลรอมฏอนขณะที่อุปทานมีแนวโน้มปรับลดลงเนื่องจากการปิดซ่อมบำรุงของโรงกลั่นในญี่ปุ่นและไต้หวัน
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากแรงกดดันของอุปทานในภูมิภาคที่ยังคงล้นตลาด อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลงในกรอบที่จำกัด เนื่องจาก แรงสนับสนุนของอุปสงค์ที่แข็งแกร่งจากภูมิภาคตะวันออกกลาง เช่น ประเทศอียิปต์ และซาอุดิอาระเบีย ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว
ทิศทางราคาน้ำมันดิบ
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 57-63 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 62-68 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
จับตาการประชุมโอเปกที่จะจัดขึ้นในวันที่ 5 มิ.ย. ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ว่าผู้ผลิตน้ำมันดิบในกลุ่มโอเปกจะมีมติปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงจากโควตาการผลิตของกลุ่มที่ระดับ 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพื่อพยุงราคาน้ำมันดิบหรือไม่ หลังจากก่อนหน้านี้ กลุ่มโอเปก มีมติให้คงกำลังการผลิตไว้เพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาดในการประชุมครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 11 พ.ย. 57 ในขณะที่ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่ากลุ่มโอเปกจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างมีนัยสำคัญ
ราคาน้ำมันดิบที่ฟื้นตัวเหนือระดับ 60-65 เหรียญสหรัฐฯ อาจเพิ่มความจูงใจให้ผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ กลับมาเพิ่มอัตราการผลิตน้ำมันดิบอีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้ บริษัทขุดเจาะและผลิตน้ำมันดิบหลายแห่งได้ชะลอการขุดเจาะและผลิตน้ำมันดิบลงจากภาวะราคาน้ำมันดิบตกต่ำ โดยล่าสุด Baker Huges เปิดเผยข้อมูลจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯ สิ้นสุดวันที่ 22 พ.ค. ปรับลดลงเพียง 1 แท่น ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงน้อยที่สุดนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา
การเจรจาแก้ไขปัญหาวิกฤติหนี้กรีซว่าจะเป็นไปในทิศทางใด ซึ่งจะส่งผลต่อ โดยล่าสุดกรีซนัดชำระหนี้กับ IMF งวดถัดไปกว่า 1.5 พันล้านยูโร ภายในสิ้นเดือนมิ.ย.นี้ โดยหนึ่งในจำนวนนี้ กรีซต้องชำระหนี้กว่า 300 ล้านยูโรภายในวันที่ 5 มิ.ย. อย่างไรก็ดี หลายฝ่ายยังคงกังวลว่ากรีซมีแนวโน้มที่จะขาดสภาพคล่องและไม่สามารถชำระหนี้ IMF ทันกำหนด หลังจากกรีซยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับทางกลุ่มเจ้าหนี้ได้ และอาจเป็นเหตุให้กรีซไม่ได้รับเงินช่วยเหลือรอบใหม่จากยูโรโซนมูลค่าราว 7 พันล้านยูโร ภายในวันที่ 3 มิ.ย.นี้
ความไม่สงบในตะวันออกกลางที่ยืดเยื้อ ที่ยังสร้างความกังวลต่อตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากกลุ่มรัฐอิสสาม (IS) ได้เข้ายึดเมือง Ramadi ในจังหวัดอันบาร์ ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอิรัก ทำให้รัฐบาลอิรักเรียงร้องขออาสาสมัครจากกองกำลังกลุ่มนิกายชีอะห์เพื่อเข้าร่วมการยึดเมือง Ramadi กลับคืนมา ในขณะเดียวกันด้านสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ อยู่ระหว่างการพิจารณาเกี่ยวกับวิธีการสนับสนุนกองกำลังภาคพื้นดินในอิรัก เพื่อทำสงครามต่อต้านกับกลุ่มผู้ก่อการร้าย