WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

energyหั่นซื้อไฟฟ้าไอพีพีพลังงานมึนหนี้บัตรเอ็นจีวีสูญ 20 ล้าน

    ไทยโพสต์ : วิภาวดีรังสิต - กระทรวงพลังงานพิจารณาทางเลือก 4 ด้าน ตัดสินชะตาไอพีพี 5,000 เมกะวัตต์ ของกลุ่มกัลฟ์ ส่อแววลดกำลังการผลิตเหลือ 2,500 เมกะวัตต์ อ้างเพื่อไม่ให้มีปัญหาระบบสายส่งไฟฟ้ารองรับ พร้อมเล็งถกแก้ปัญหาหนี้สูญบัตรเครดิตพลังงาน 20 ล้าน เร่งสรุปเลิกหรือเดินหน้าก่อนหมดอายุสิ้นปี 58

    แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รมว.พลังงาน จะเร่งสรุปความชัดเจนกรณีความโปร่งใสในการประมูลโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตเอกชนรายใหญ่ (ไอพีพี) จำนวน 5,000 เมกะวัตต์ ที่มีกลุ่ม บริษัท กัลฟ์ เจพี ที่ชนะการประมูลเพียงรายเดียว ตามนโยบายของคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.)

    สำหรับ ทางเลือกในการพิจารณาที่นายณรงค์ชัยจะตัดสินใจมี 4 ทางเลือกคือ 1.ปล่อยให้กลุ่มกัลฟ์ดำเนินการลงทุนได้ตามแผนที่ทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าไว้กับทาง กฟผ. และเป็นไปตามแผนพีดีพี 2015 ฉบับล่าสุด 2.คือยกเลิกโครงการทั้งหมด 5,000 เมกะวัตต์ หากพบกระบวนการประมูลที่ผ่านมาพิสูจน์ได้ว่ามีความไม่โปร่งใส แต่จะต้องถูกเอกชนยื่นฟ้องร้อง

    ทางเลือกที่ 3.คือ เจรจาเลื่อนโครงการไอพีพีทั้ง 5,000 เมกะวัตต์ ออกไปจากแผนเดิม โดยที่รัฐไม่ต้องชดเชย และ 4.คือ ลดกำลังการผลิตของกลุ่มกัลฟ์ลงเหลือ 2,500 เมกะวัตต์ แต่รัฐอาจจะต้องยอมที่จะจ่ายชดเชยค่าไฟฟ้าให้กับกลุ่มกัลฟ์ ที่จะต้องเสียโอกาสในการลงทุนไป และไม่กระทบกับระบบสายส่งที่จะรองรับ ซึ่งทางเลือกสุดท้ายถือว่ามีความเป็นไปได้ที่กระทรวงพลังงานพยายามที่จะเจรจากับกลุ่มกัลฟ์อยู่ในขณะนี้

    แหล่งข่าวกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กระทรวงพลังงานเตรียมหารือแก้ไขปัญหาบัตรเครดิตพลังงานที่จะหมดอายุสิ้นปี 2558 นี้ โดยจะพิจารณาว่าจะต่ออายุบัตรเครดิต หรือยกเลิกโครงการดังกล่าว ซึ่งต้องพิจารณาเหตุและผลประกอบการตัดสินใจ เนื่องจากโครงการบัตรเครดิตพลังงานเป็นหนึ่งในมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่ใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) รวมถึงเป็นบัตรส่วนลดราคาเอ็นจีวีของกลุ่มรถโดยสารสาธารณะด้วย

     ขณะเดียวกัน ยังพบว่า ปัจจุบันเกิดปัญหาหนี้สูญจากบัตรเครดิตพลังงานแล้วกว่า 20 ล้านบาท รวมถึงเกิดยอดสะสมการใช้เงินชดเชยส่วนต่างราคาเอ็นจีวีให้ผู้มีรายได้น้อยแล้วถึง 30,000-40,000 ล้านบาท โดบ

    บมจ.ปตท.เป็นผู้แบกรับภาระทั้งหมด ดังนั้นในการหารือโครงการบัตรเครดิตพลังงานนั้น ทางผู้บริหารกระทรวงพลังงานจะต้องเจรจากับทาง ปตท. ว่าจะขยายโครงการต่อหรือไม่ และทาง ปตท.จะยอมแบกรับภาระดังกล่าวต่อไปหรือไม่ด้วย

     อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังไม่สามารถปรับขึ้นราคาเอ็นจีวีให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงได้ เพราะอยู่ระหว่างการหารือถึงอัตราที่เหมาะสม รวมถึงมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ซึ่งที่ผ่านมาเกิดการต่อต้านและเรียกร้องทั้งจากภาครัฐโดยกระทรวงคมนาคม รวมถึงผู้ใช้ เช่น กลุ่มแท็กซี่ กลุ่มรถขนส่งต่างๆ เป็นต้น ให้ชะลอการขึ้นราคาออกไปก่อน ซึ่งปัจจุบันผู้ถือบัตรสามารถใช้เป็นบัตรลดซื้อเอ็นจีวีจากราคา 13 บาทต่อกิโลกรัม เหลือเพียง 10 บาทต่อกิโลกรัม.

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!