- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Tuesday, 17 June 2014 21:58
- Hits: 3298
'ประจิน'มั่นใจไฟฟ้าภาคใต้ไม่ดับ จี้กฟผ.-กฟภ.เตรียมพร้อมรับพีกคาด 2,170 เมกะวัตต์
ไทยโพสต์ : นครศรีธรรมราช * 'ประจิน'ลงพื้นที่ภาคใต้สั่งการดูแลวิกฤติไฟฟ้า มั่นใจไม่เกิดไฟฟ้าดับแน่ เหตุเปิดซื้อไฟฟ้ามาเลเซียเสริมระบบ 150 เมกะวัตต์ต่อวัน แม้ราคาจะสูงถึง 8.50 บาทต่อหน่วย สั่งงัดมาตรการลดใช้ไฟฟ้าภาคสมัครใจ เมื่อพีกไฟฟ้าถึง 2,170 เมกะวัตต์ จ่ายค่าตอบแทน 4 บาทต่อหน่วย ย้ำยังไม่อนุมัติสร้างโรงไฟฟ้ากระบี่ ระบุให้กลับไปทำความเข้าใจและเข้าถึงแกนนำชาวบ้านใหม่
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฝ่ายเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า จากการติดตามสถาน การณ์วิกฤติไฟฟ้าภาคใต้ ที่โรงไฟฟ้าขนอม จ.สุราษฎร์ธานี พบมีมาตรการดูแลรับมือกับวิกฤติไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี และมั่นใจว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้างในพื้นที่ภาคใต้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ ยังได้รับความร่วมมือจากประเทศมาเลเซียที่ยืนยันจะช่วยขายไฟฟ้าให้กับไทยในช่วงวิกฤติ โดยมีสัญญาการส่งไฟฟ้าให้ไทยไม่เกิน 150 เมกะวัตต์ต่อวัน ซึ่งเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.2557 มาเลเซียได้ส่งไฟฟ้ามายังไทยแล้ว 140 เมะวัตต์ ซึ่งมั่นใจว่าจะเสริมระบบความมั่นคงไฟฟ้าภาคใต้ได้แน่นอน
อย่างไรก็ตาม ขอให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่าได้ประมาท แม้จะเตรียมแผนไว้อย่างรัดกุมแล้วก็ตาม โดยต้องจัดเตรียมรถโมบาย หรือรถผลิตไฟฟ้าสำรองเคลื่อนที่ไว้ให้พร้อมยามฉุกเฉินทันที
นอกจากนี้ ได้สั่งการให้นำมาตรการลดใช้ไฟฟ้าตามความสมัครใจที่ภาคอุตสาหกรรมและโรงงานได้ลงชื่อเข้าร่วมโครงการมาใช้ทันที เมื่อพบว่าเกิดการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (พีก) ถึงระดับ 2,170 เมกะวัตต์ เพื่อป้องกันไม่ให้ยอดการใช้ไฟฟ้าขึ้นถึงระดับ 2,300 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งหมดที่ภาคใต้ผลิตได้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงปัญหาไฟฟ้าดับ โดยผู้ที่ยินยอมลดใช้ไฟฟ้าดังกล่าวจะได้ค่าตอบแทนการลดใช้ไฟฟ้าในอัตรา 4 บาทต่อหน่วย
พล.อ.อ.ประจิน กล่าวกรณีที่ กฟผ.เสนอขอสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ จ.กระบี่นั้น ขณะนี้ยังไม่มีการอนุมัติแต่อย่างใด โดยกำลังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ แต่เบื้องต้นควรต้องกลับไปสร้างความรู้ ความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ใหม่ เนื่องจากที่ผ่านมาการสื่อสารกับชาวบ้านยังเข้าไม่ถึงระดับผู้นำชุมชนเพียงพอ
นายสุนชัย คำนูณเศรษฐ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า กฟผ. ได้ข้อตกลงในการซื้อไฟฟ้าจากมาเลเซียเฉพาะช่วงที่แหล่งก๊าซธรรมชาติพื้นที่พัฒนาร่วมไทยมาเลเซีย (เจดีเอ) ปิดซ่อม 28 วัน (13 มิ.ย.-10 ก.ค.) ในปริมาณวันละ150 เมกะวัตต์ แต่มาเลเซียมีความพร้อมที่จะจ่ายไฟฟ้าให้ไทยได้เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.2557 โดยราคาอยู่ที่หน่วยละ 8.50 บาทต่อ หน่วย ซึ่งในส่วนของการจ่ายไฟฟ้า ในวันอื่นๆ นั้น ทางมาเลเซียจะกำหนดราคาขายเป็นวันขึ้นอยู่กับเชื้อเพลิงที่ใช้ผลิตไฟฟ้า โดยราคาสูงสุดคาดว่าจะอยู่ที่ 12.50 บาทต่อหน่วย
สำหรับ การทำความเข้าใจการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ภาคใต้เพื่อเสริมความมั่นคงไฟฟ้าในระยะยาวนั้น กฟผ.ได้ทำความเข้าใจกับประชาชนอย่างต่อเนื่องโดยตลอด ซึ่งตามแผนการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน จะมีโรงไฟฟ้ากระบี่ขนาด 800 เมกะวัตต์ ที่จะเข้าระบบในปี 2562 หลังจากนั้น กฟผ.จะมีแผนที่จะสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเพิ่มอีก 3 โรง โรงละ 800 เมกะวัตต์ ในปี 2565, 2568 และ 2571 ตามลำดับ
นายกวิน ทังสุพานิช เลขาธิ การสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) กล่าวว่า กกพ.ได้ใช้อำนาจตามกฎ หมายเพื่อความมั่นคงด้านไฟฟ้าของประเทศ อนุมัติให้ผู้ที่เข้าร่วมโครงการลดใช้ไฟฟ้าอย่างสมัครใจ สามารถได้รับเงินจูงใจลดใช้ไฟฟ้าได้ 4 บาทต่อหน่วย และเริ่มใช้กับวิกฤติไฟฟ้าภาคใต้ครั้งนี้ได้ทันที ซึ่ง กกพ.จะเลือกผู้สมัครร่วมโครงการตามลำดับให้ลดใช้ไฟฟ้าตามที่ กฟผ.ร้องขอ.