- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Monday, 16 June 2014 23:01
- Hits: 3389
สถานการณ์รุนแรงในอิรักและปัญหาการส่งออกน้ำมันของลิเบีย หนุนราคาน้ำมันดิบเคลื่อนไหวในกรอบสูง
แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ (16 - 20 มิ.ย. 57)
ราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบสูงต่อเนื่อง โดยราคาจะยังคงได้รับแรงหนุนจากความกังวลของตลาดต่อภาวะอุปทานตึงตัวในอิรัก หลังสงครามกลางเมืองในอิรักปะทุรุนแรงขึ้นอีกครั้ง ขณะที่การส่งออกน้ำมันของลิเบียยังคงอยู่ในระดับต่ำและยังไม่มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นในสัปดาห์นี้ นอกจากนี้ตลาดยังคาดการณ์ว่าในการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ในช่วงกลางสัปดาห์จะยังคงปรับลด QE ต่อเนื่องด้วยมุมมองที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังฟื้นตัวไปด้วยดี อย่างไรก็ดี การเจรจาเพื่อแก้วิกฤติยูเครนที่หลายฝ่ายมีความหวังว่าจะมีทางออกของปัญหามีส่วนกดดันราคา
ปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้:
เหตุการณ์สู้รบในอิรักที่เพิ่มความรุนแรงและกระจายตัวกว้างขึ้นกินพื้นที่กว่า 10-15% ของประเทศในขณะนี้ ส่งผลให้ตลาดกังวลเรื่องอุปทานตึงตัวในตะวันออกกลางมากขึ้น รวมถึงส่งผลกระทบต่อโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งน้ำมันทางท่อ Kirkuk ทางตอนเหนือของประเทศแล้วบางส่วน และยังส่งผลให้โรงกลั่นใหญ่ที่มีกำลังผลิตราว 300,000 บาร์เรลต่อวันต้องลดกำลังการผลิตลงด้วย
รัฐบาลลิเบียคาดว่าจะยังคงไม่สามารถเจรจากับกลุ่มผู้ประท้วงเพื่อขอเปิดใช้ท่าเรือส่งออกน้ำมันดิบได้เพิ่มเติม แม้จะมีความพยายามหลายครั้ง โดยการส่งออกน้ำมันดิบล่าสุดยังคงอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 200,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งถือเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบเกือบ 1 ปี นับตั้งแต่ มิ.ย. ปีที่แล้วที่ลิเบียส่งออกน้ำมันดิบที่ราว 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน
การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ในวันที่ 17-18 มิ.ย. นี้ ตลาดคาดว่านางเจเนท เยลเลน ประธานธนาคารกลางฯ จะยังคงตัดสินใจลดวงเงินเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลลงต่อเนื่องอีก 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทั้งนี้เนื่องจากตลาดมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังฟื้นตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น
นายวลาดิเมีย ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียเดินหน้าเปิดการเจรจากับนาย เปโตร โปโรเชนโค ประธานาธิบดีคนล่าสุดของยูเครน เพื่อร่วมมือกันขจัดปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นทางตะวันออกของยูเครนระหว่างรัฐบาลยูเครนและกองกำลังติดอาวุธฝักใฝ่รัสเซียที่กำลังทวีความรุนแรงอยู่ในขณะนี้ ซึ่งหลายฝ่ายมีความหวังว่าการเจรจาจะเป็นไปได้ด้วยดี
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐฯ และยูโรโซน ดัชนีภาคอุตสาหกรรมของรัฐนิวยอร์คและของฟิลาเดลเฟีย ดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐฯ ยอดขอสร้างบ้านใหม่สหรัฐฯ และความรู้สึกผู้บริโภคต่อเศรษฐกิจยูโรโซน เป็นต้น
สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (9 – 13 มิ.ย. 57)
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับเพิ่มขึ้น 4.25 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปิดที่ 106.91 เหรียญฯ และเบรนท์ปรับเพิ่มขึ้น 4.80 เหรียญฯ ปิดที่ 113.41 เหรียญฯ ขณะที่ราคาน้ำมันดูไบปรับขึ้นเช่นกันมาอยู่ที่ระดับ 109 เหรียญฯ
ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยราคาได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดีขึ้น ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ในเดือน พ.ค.57 ตัวเลขการส่งออกของจีนเดือน พ.ค. 57 ปรับเพิ่มขึ้น 7.0% ซึ่งสูงกว่าคาด รวมถึงการที่ธนาคารกลางของจีนออกมาประกาศว่าอาจมีนโยบายที่ผ่อนคลายดอกเบี้ยให้กับการลงทุนภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมขนาดเล็กและขนาดกลาง เพื่อเป็นการผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจและกระตุ้นความต้องการใช้น้ามันให้มากขึ้น นอกจากนี้ ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบ 2 เดือน และสงครามกลางเมืองในอิรักที่ปะทุรุนแรงขึ้นอีกครั้งในช่วงกลางสัปดาห์ล้วนส่งแรงหนุนต่อราคาน้ำมันอย่างมาก