- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Sunday, 26 April 2015 13:05
- Hits: 1714
'ณรงค์ชัย'ยอมรับสอบตกสัมปทานปิโตรฯ-รื้อเอ็นจีวีปลื้ม!ปรับโครงสร้างน้ำมัน
ไทยโพสต์ : วิภาวดีรังสิต * กระทรวงพลังงานยอมรับ สอบตกผลงาน 6 เดือน ทั้งเรื่องเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 การปรับขึ้นราคาเอ็นจีวี เชื่อนายกฯ รักษาคำพูด หลังครบ 3 เดือนเตรียมเปิดให้เอกชนยื่นขอสิทธิสำรวจปิโตรเลียมใหม่ ชูปรับโครงสร้างราคาน้ำมัน เป็นผลงานเด่น
นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รมว.พลังงาน เปิดเผยผลงานใน รอบ 6 เดือน (12 ก.ย.57-31 มี.ค.58) ว่า ผลงานของกระทรวงพลังงานที่ดูเหมือนจะสอบไม่ผ่านมีอยู่ 2 เรื่อง คือ การเปิดสัมปทานปิโตรเลียม รอบที่ 21 และการปรับโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี)
สำหรับ การเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 ที่ตั้งเป้าจะให้เอกชนยื่นคำขอภายในการทำงาน 6 เดือนของรัฐบาล แต่ไม่สามารถที่จะดำเนินการได้ โดยได้ประกาศเชิญชวนให้เอกชนยื่นคำขอเมื่อเดือน ต.ค.57 และสิ้นสุด ก.พ.58 ได้ถูก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งให้ชะลอออกไปก่อน 3 เดือน เพื่อให้มีการแก้ไขกฎหมายให้แล้วเสร็จก่อน ซึ่งเมื่อครบกำหนด กระทรวงพลังงานจะเปิดให้มีการยื่นคำขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมใหม่
"เชื่อว่าทหารจะรักษาคำพูดที่ให้ชะลอเรื่องของการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมออกไป 3 เดือน ซึ่งเมื่อครบกำหนดกระทรวงพลังงานคงจะต้องเดินหน้าไปตามโรดแม็พที่วางไว้ โดยจะดำเนินการให้ได้ภายใน 6 เดือนนับจากนี้ ที่จะเปิดให้เอกชนเข้ามายื่นคำขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม เพียงแต่จะตัดคำว่าสัมปทานออกไป เพราะดูเหมือนว่าประชาชนส่วนหนึ่งจะไม่ชอบคำนี้"นายณรงค์ชัยกล่าว
ส่วนการปรับโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์(เอ็นจีวี) ยังทำไม่ได้ตามที่ตั้งใจไว้ เพราะยังมีเสียงคัดค้านจากหลายฝ่าย โดยรัฐมนตรีบางท่านมาขอร้องว่าอย่าเล่นบทเป็นนักเศรษฐศาสตร์มาก แต่ให้เล่นบทเป็นนักการเมืองบ้าง จึงทำให้ต้องชะลอเรื่องนี้เอาไว้ก่อน
นายณรงค์ชัยกล่าวสรุปถึงผลงานในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา ว่าก่อนที่รัฐบาลชุดปัจจุบันจะเข้ามาบริหารประเทศ โครงสร้างราคาพลังงานถูกบิดเบือน จากการอุดหนุนราคาข้ามเชื้อเพลิง ประชาชนใช้พลังงานอย่างไม่มีประสิทธิภาพ การหยุดชะงักของการพัฒนาพลังงานทดแทน โครงการค้างการอนุมัติจำนวนมาก รวมถึงปัญหาการผูกขาดในกิจการพลังงาน
ดังนั้น การดำเนินงานของกระทรวงพลังงาน จึงเน้นใน 3 หัวข้อหลัก คือ เรื่องของความมั่น คง, ความมั่งคั่งและความยั่งยืน
ส่วนเรื่องเร่งด่วน คือการปรับโครงสร้างราคาน้ำมันและก๊าซ เพื่อสร้างความเป็นธรรมแก่ราคาเชื้อเพลิงแต่ละชนิด ลดการบิดเบือนการใช้พลังงาน เร่งแก้ไขปัญหาหนี้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง การปรับอัตราการจัดเก็บภาษีสรรพสามิต และปรับอัตราการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำ มันเชื้อเพลิง ระหว่างดีเซลและกลุ่มเบนซิน ให้อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน จนทำให้กองทุนน้ำมันที่เคยติดลบ 6,000 ล้านบาท กลับมามีเงินสะสมเป็นบวกประมาณ 40,000 ล้านบาท และมีเงินเข้าคลังจากการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตที่เพิ่มขึ้นประมาณ 8 หมื่นล้านบาทต่อปี รวมทั้งลดการนำเข้าก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ช่วยประเทศประหยัดได้เดือนละ 1,000 ล้านบาท.