- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Wednesday, 22 April 2015 15:09
- Hits: 3029
ก.พลังงานคาดปิดซ่อมแหล่งซอติกา 20-27 เม.ย.58 จะเป็นไปตามแผน
นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงพลังงาน ในฐานะรักษาการผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังวิกฤตพลังงาน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ กระทรวงพลังงาน (ศร.พน.) Energy Crisis Monitoring Center (EC-MC) เปิดเผยถึง การรายงานสถานการณ์พลังงาน ในช่วงหยุดซ่อมแหล่งก๊าซธรรมชาติประเทศเมียนมาร์ ประจำวันที่ 20เมษายน 2558ดังนี้ 1.ความคืบหน้าของการปิดซ่อมบำรุงประจำปีของแหล่งก๊าซธรรมชาติจากประเทศสหภาพเมียนมาร์
1.1 แหล่งเยตากุน กำหนดปิดซ่อมบำรุงวันที่ 10 – 19เมษายน 2558 : ความคืบหน้างานซ่อมบำรุงแหล่งนั้น เสร็จสมบูรณ์แล้ว 100 %
1.2 แหล่งยาดานา กำหนดปิดซ่อมบำรุงวันที่ 11 – 19เมษายน 2558 : ความคืบหน้างานซ่อมบำรุงแหล่งนั้น เสร็จสมบูรณ์แล้ว 100 %
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 03.25น. ได้เปิด Main Valve ที่บล็อควาล์วบ้านอีต่อง เพื่อรับก๊าซธรรมชาติ จากผู้ผลิตยาดานาและเยตากุน โดยทาง ปตท. ได้ประสานงานกับ กฟผ. ให้โรงไฟฟ้าฝั่งตะวันตก เปลี่ยนเชื้อเพลิงจากน้ำมันเป็นก๊าซธรรมชาติ
ในขณะนี้ ทุกฝ่ายอยู่ระหว่างการเตรียมพร้อมในการเริ่มหยุดซ่อมบำรุงแหล่งซอติกาในวันที่ 20-27เมษายน 2558ซึ่งคาดว่า จากการเตรียมพร้อมของทุกฝ่าย การซ่อมบำรุงแหล่งซอติการจะเป็นไปตามแผน
3. การสำรองน้ำมัน และก๊าซ NGV ในส่วนการขนส่งและสำรองน้ำมันเตาและน้ำมันดีเซล สนับสนุน การใช้ที่โรงไฟฟ้าจังหวัดราชบุรีนั้น ในรอบ 24ชั่วโมงที่ผ่านมา เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้แต่มีการใช้น้ำมันเตารวม 10.8ล้านลิตร ยอดสะสม 60.9ล้านลิตร (จากแผนรวม 10–27เมษายน 2558เตรียมไว้ 144ล้านลิตร) ยอดใช้น้ำมันดีเซล 2ล้านลิตร ยอดสะสม 10.0ล้านลิตร (จากแผนรวม 10-27เมษายน 2558เตรียมไว้ 44ล้านลิตร) ส่วนการใช้ NGV จากระบบก๊าซ Line-Pack พบว่ามีการใช้ 14.92ล้านลูกบาศก์ฟุต ทำให้มีก๊าซธรรมชาติสำรองในระบบ Line-Pack คงเหลือ 216.85ล้านลูกบาศก์ฟุต (จากที่เตรียมไว้ 355ล้านลูกบาศก์ฟุต)
4.การเฝ้าระวังอุบัติภัยด้านขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิง
ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาไม่พบรายงานการเกิดอุบัติภัยร้ายแรงในด้านน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งที่ผ่านมากรมธุรกิจพลังงาน ได้แจ้งขอความร่วมมือ ผู้ค้าน้ำมันเชื้อเพลิงและผู้ขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิง เตรียมความพร้อม ทีมระงับอุบัติภัยด้านน้ำมันเชื้อเพลิง ให้สามารถตอบโต้สถานการณ์ได้ตลอดเวลา เพื่อลดความเสี่ยงอันอาจจะเกิดจากอุบัติภัยเกี่ยวกับการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิง