- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Monday, 20 April 2015 23:13
- Hits: 2344
ราคาน้ำมันขยับลงจากระดับสูงสุดของปี หลังการซื้อขายเบาบางลง
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์และเวสต์เท็กซัสปรับลดลงเล็กน้อยจากระดับสูงสุดของปีนี้เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังการซื้อขายเริ่มเบาบางลงเล็กน้อย ประกอบกับปัจจัยพื้นฐานของอุปสงค์ยังคงเบาบาง ขณะที่อุปทานยังคงล้นตลาดต่อเนื่องเช่นกัน
-/+ กองกำลังทหารที่ควบคุมดูแลแหล่งผลิตน้ำมัน Masila แหล่งผลิตน้ำมันขนาดใหญ่ที่สุดของเยเมน ที่เริ่มถอนกำลังออกจากพื้นที่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา อาจส่งสัญญาณว่าความไม่สงบในเยเมนมีแนวโน้มคลี่คลายลง อย่างไรก็ตาม การผลิตน้ำมันดิบเยเมนปรับลดลงราว 60,000 บาร์เรลต่อวัน เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา นอกจากนี้หลายฝ่ายยังกังวลว่าเส้นทางการเดินเรือขนส่งน้ำมันทางตอนใต้ของประเทศที่เคยใช้เป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันราว 4% ของโลก หรือราว 3.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน จะได้รับผลกระทบไปด้วย
-/+ ตัวเลขหลุมขุดเจาะน้ำมันดิบสหรัฐฯ ที่รายงานประจำสัปดาห์โดย Baker Hughe ล่าสุดยังคงปรับลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 19 ติดต่อกันนับแต่เดือน ต.ค. ปีที่แล้ว เหลือเพียง 734 หลุม ในสัปดาหที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม จำนวนหลุมที่ลดลงในช่วง 2 สัปดาห์ล่าสุดที่ 11 และ 26 หลุม ตามลำดับ ถือว่าชะลอจากการลดลงเมื่อเดือน ม.ค. มาก โดยนักวิเคราะห์ของธนาคาร Bank of America คาดว่าหลุมขุดเจาะที่ลดลงราว 800 หลุมในช่วงที่ผ่านมา จะส่งผลให้การผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดลงอย่างมีนัยสำคัญในช่วงครึ่งหลังของปี นอกจากนี้ภาวะราคาน้ำมันที่ตกต่ำนี้ยังส่งผลให้บริษัทขุดเจาะน้ำมันชื่อดังอย่าง Schlumberger ออกมาประกาศปลดพนักงานเพิ่มอีกราว 11,000 ตำแหน่ง หลังปลดไปแล้ว 9,000 ตำแหน่งเมื่อเดือน ม.ค.
+ ความรู้สึกผู้บริโภคสหรัฐฯ (เบื้องต้น) กลางเดือน เม.ย. ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 95.5 จากระดับ 93.0 เมื่อเดือน มี.ค. โดยการใช้จ่ายของชาวอเมริกัน รวมถึงยอดค้าปลีกและการจ้างงานก็มีแนวโน้มที่ดีขึ้น อย่างไรก็ดี ตัวเลขดังกล่าวถือว่าปรับลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับระดับสูงสุดในรอบ 8 ปี ที่ 98.1 เมื่อเดือน ม.ค.
+ ความรู้สึกผู้บริโภคสหรัฐฯ (เบื้องต้น) กลางเดือน เม.ย. ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 95.5 จากระดับ 93.0 เมื่อเดือน มี.ค. โดยการใช้จ่ายของชาวอเมริกัน รวมถึงยอดค้าปลีกและการจ้างงานก็มีแนวโน้มที่ดีขึ้น อย่างไรก็ดี ตัวเลขดังกล่าวถือว่าปรับลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับระดับสูงสุดในรอบ 8 ปี ที่ 98.1 เมื่อเดือน ม.ค.
+ ยอดสุทธิการซื้อ-ขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าทั้งสัญญาแบบฟิวเจอร์สและออปชั่น สำหรับน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ (Net Long Position) ของนักลงทุน (Money managers) สิ้นสุด ณ วันที่ 14 เม.ย. รายงานโดยหน่วยงานกำกับดูแลอนุพันธ์ของสินค้าโภคภัณฑ์ (US Commodity Futures Trading Commission, CFTC) เพิ่มขึ้นราว 10,368 สัญญา มาอยู่ที่ระดับ 235,057 สัญญา แสดงให้เห็นว่ามีนักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรในตลาดอนุพันธ์ค่อนข้างมากในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ อย่างไรก็ดี อุปทานในภูมิภาคยังมีแนวโน้มจะตึงตัวมากขึ้น หลังตัวเลขสต๊อกน้ำมันเบนซินคงคลังที่สิงคโปร์สัปดาห์ล่าสุดปรับลดลงต่อเนื่อง ประกอบกับโรงกลั่นหลายแห่งที่เตรียมเข้าสู่การปอดซ่อมบำรุง โดยล่าสุดโรงกลั่นใหญ่ในสิงคโปร์เริ่มปิดซ่อมบำรุงแล้วเมื่องปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาและคาดว่าจะปิดเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 1 เดือน
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยราคาได้รับแรงหนุนจากอุปทานในภูมิภาคที่คาดว่าจะตึงตัวเพิ่มขึ้นในช่วงที่โรงกลั่นหลายแห่งปิดซ่อมบำรุง ประกอบกับมีโอกาสในการส่งน้ำมันดีเซลไปขายยังยุโรปมากขึ้น อย่างไรก็ตาม น้ำมันดีเซลส่วนใหญ่ที่ส่งไปขายยังยุโรปมีแนวโน้มว่าจะเป็นการส่งออกจากโรงกลั่นใหม่ในซาอุดิอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ทิศทางราคาน้ำมันดิบ
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 53-58 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 58-64 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ จะปรับลดลงต่อเนื่องหรือไม่ หลัง EIA ส่งสัญญาณปริมาณการผลิตน้ำมันดิบที่ปรับลดลงอีกครั้งในรอบ 3 เดือน และยืนอยู่ที่ระดับ 9.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งหากลดลงต่อเนื่องก็อาจส่งผลให้อุปทานน้ำมันโลกล้นตลาดน้อยลง นอกจากนี้ IEA ยังได้ออกมาปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของการผลิตน้ำมันดิบในอเมริกาเหนือในช่วงครึ่งปีหลังลง 160,000 บาร์เรลต่อวัน
ทิศทางของเศรษฐกิจของยูโรโซนและทิศทางการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจเพื่อแก้ไขภาวะเศรษฐกิจซบเซาและเงินฝืด โดยล่าสุดคณะกรรมการธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำสุดในประวัติกาลที่ 0.05% ทั้งยืนยันว่า ECB จะเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ต่อไป
จับตาการพิจารณาแผนการปฏิรูปเศรษฐกิจของกรีซภายในวันที่ 20 เม.ย. เพื่ออนุมัติเงินช่วยเหลือก้อนสุดท้ายมูลค่า 7,200 ล้านยูโร ที่ยูโรโซนจะมอบให้แก่กรีซภายใต้โครงการเงินกู้มูลค่า 240,000 ล้านยูโร
จับตาว่าจีนจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น การปรับลดอัตราเงินสดสำรอง หรือการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติมหรือไม่ หลังอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในปีนี้มีแนวโน้มชะลอตัวลง ล่าสุดสำนักงานสถิติแห่งชาติรายงานจีดีพีไตรมาส 1/58 ว่าขยายตัวที่ 7% ซึ่งถือว่าตกต่ำที่สุดในรอบ 6 ปี
อุปสงค์น้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับตัวลดลงในช่วงไตรมาส 2 นี้ หลังโรงกลั่นน้ำมันทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเอเชีย เริ่มเข้าสู่ฤดูกาลปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่น โดยล่าสุดคาดว่าหน่วยการกลั่นน้ำมันดิบ (Crude Distillation Units) ในเอเชียแปซิฟิกจะปิดซ่อมบำรุงราว 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน
