- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Tuesday, 07 April 2015 22:10
- Hits: 1528
รัฐเปิดตัวรวมพลังหาร 2ฯลดใช้พลังงานฤดูร้อน รับมือปิดซ่อมท่อก๊าซฯพม่า
กระทรวงพลังงาน เปิดตัวโครงการ ‘รวมพลังหาร 2 เดินหน้าประเทศไทย ลดใช้พลังงาน’ ชวนคนไทย ปรับพฤติกรรมการใช้พลังงานในช่วงฤดูร้อน ซึ่งจะช่วยบรรเทาผลกระทบจากกรณีที่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ จะทำการปิดซ่อมท่อก๊าซธรรมชาติประจำปี 58 ทั้ง 3 แหล่งสำคัญที่ส่งก๊าซฯมาเป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้าของไทยด้วย
พล.อ.กประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานในกิจกรรมดังกล่าว ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นโดยกระทรวงพลังงานในการรณรงค์ขอความร่วมมือภาคประชาชน ภาคอุตสาหกรรม และทุกภาคส่วนร่วมกันประหยัดพลังงานในช่วงหน้าร้อนนี้
นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ช่วงเดือนเม.ย.ของทุกปี เป็นช่วงที่ประเทศไทยมีสภาพอากาศร้อนจัด จึงมีการเปิดเครื่องปรับอากาศเพื่อคลายร้อนเพิ่มขึ้น ทำให้ปริมาณการใช้ไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้นตาม โดยในปีที่ผ่านมา พบว่าปริมาณการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (Peak) อยู่ที่ 26,942.1 เมกะวัตต์ เหตุจากสภาพอากาศที่ร้อน อุณหภูมิสูงถึง 37.5 องศาเซลเซียส ประกอบกับช่วงดังกล่าวเป็นช่วงเทศกาลวันหยุดสงกรานต์ จึงมีการขับรถยนต์ส่วนตัวเพื่อเดินทางท่องเที่ยวและกลับภูมิลำเนาจำนวนมาก จึงทำให้มีการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงสูงขึ้น
เพื่อช่วยกระตุ้นให้ประชาชนร่วมมือกันประหยัดพลังงานทั้งไฟฟ้าและน้ำมันในหน้าร้อนนี้ กระทรวงพลังงานจึงได้จัดกิจกรรม "รวมพลังหาร 2 เดินหน้าประเทศไทย ลดใช้พลังงาน" โดยขอความร่วมมือประชาชน ร่วมกันปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการประหยัดพลังงาน ตามภารกิจ 1ล. 5ป. ได้แก่ ล้างแอร์หน้าร้อน ,ปิดไฟดวงที่ไม่ใช้,ปรับแอร์ที่อุณหภูมิ 25 องศา ,ปลดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้า ,เปลี่ยนหลอดไฟประหยัดพลังงาน และปรับเช็คเครื่องยนต์ก่อนเดินทางไกล ซึ่งถือเป็นวิธีการที่ประหยัดพลังงานแบบง่ายๆ ที่ประชาชนสามารถทำได้ด้วยตัวเอง
นอกจากนี้ กิจกรรมดังกล่าวยังมีส่วนช่วยบรรเทาผลกระทบจากกรณีที่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ จะทำการปิดซ่อมท่อก๊าซธรรมชาติประจำปี 58 ทั้ง 3 แหล่งสำคัญ คือ แหล่งยาดานา และเยตากุน ระหว่างวันที่ 10-19 เม.ย. และแหล่งซอติก้า ระหว่างวันที่ 20-27 เม.ย. ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณก๊าซธรรมชาติหายไปจากระบบรวมกันสูงสุดประมาณ 1,100 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน โดยถือเป็นสัดส่วนของก๊าซธรรมชาติที่ไทยจำเป็นต้องนำเข้าจากเมียนมาร์คิดเป็น 25% หรือ 1 ใน 4 ของปริมาณการจัดหาก๊าซธรรมชาติทั้งหมดในประเทศ
อย่างไรก็ตามกระทรวงพลังงานขอยืนยันว่าจะไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อการผลิตไฟฟ้าให้เพียงพอต่อการใช้ของประชาชนอย่างแน่นอน เนื่องจากได้เตรียมความพร้อมในหลายส่วนเพื่อรองรับสถานการณ์ไว้แล้ว
ด้านนายชวลิต พิชาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กล่าวว่า หลังจากเปิดตัว (Kick Off) กิจกรรมดังกล่าวแล้ว สนพ.ยังได้จัดให้มีขบวนเดินรณรงค์ประชาสัมพันธ์การประหยัดพลังงาน เพื่อกระตุ้นความสนใจจากประชาชน โดยมีจุดที่จะไปเดินรณรงค์ 2 แห่ง คือ บริเวณรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ในวันที่ 7 เม.ย. เวลา 15.00 – 18.00 น. และบริเวณถนนอโศกมนตรีทั้งเส้น ในวันที่ 8 เม.ย. เวลา 11.00 – 13.30 น.
โดยกิจกรรมเดินรณรงค์ที่จัดขึ้นทั้ง 2 วัน จะมุ่งเน้นให้ความรู้ความเข้าใจเรื่องพลังงาน และวิธีการช่วยกันประหยัดพลังงานอย่างง่ายๆ ที่ทุกคนสามารถลงมือทำได้จริง และทำได้ทันที ซึ่ง สนพ. จะได้มีการแจกคู่มือการประหยัดพลังงาน รวมทั้งของที่ระลึก ให้แก่ประชาชนที่สนใจตลอดการเดินรณรงค์ประหยัดพลังงานครั้งนี้ด้วย
อินโฟเควสท์