- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Tuesday, 07 April 2015 22:07
- Hits: 1474
ราคาน้ำมันดิบพุ่ง หลังคาดการณ์ว่าอิหร่านจะไม่สามารถเพิ่มการส่งออกได้ก่อนปี 59
+ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์และเวสต์เท็กซัสปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากมีการประกาศออกมาว่าการยกเลิกการคว่ำบาตรอิหร่านนั้นไม่สามารถยกเลิกได้ในทันที แต่จะเป็นอย่างค่อยเป็นค่อยไปทีละขั้นตอน โดยการคว่ำบาตรจะยุติลงก็ต่อเมื่ออิหร่านได้บรรลุข้อตกลงทั้งหมด ซึ่งร่างข้อตกลงนั้นเป็นแค่ขั้นตอนๆ หนึ่งที่จะนำพาไปถึงข้อตกลงที่สมบูรณ์ โดยยังไม่ได้มีการกำหนดระยะเวลาและหัวข้อในการยกเลิกคว่ำบาตรอิหร่าน นอกจากนี้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าอิหร่านไม่น่าจะสามารถเพิ่มปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบได้ก่อนปี 2559
+ จากการประเมินปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่จุดส่งมอบน้ำมันดิบคุชชิ่ง โอกลาโฮมา ของนักวิเคราะห์พบว่า ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังแทบจะไม่ปรับเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา และน่าจะเป็นการปรับเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดตั้งแต่เดือน พ.ย. ปีที่ผ่านมา
+ ราคาน้ำมันดิบถูกสนับสนุนจากการที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงหลังจากการประกาศตัวเลขการว่างงานสหรัฐฯ ซึ่งปรับลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ประกอบกับซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดในโลกได้ปรับเพิ่มราคาน้ำมันดิบขึ้นทุกชนิดเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน จึงส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น
+ การสู้รบในเยเมนระหว่างซาอุดิอาระเบียและสมาชิกกลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับกับกองกำลังติดอาวุธฮูตียังคงดำเนินอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลา 12 วัน โดยวันจันทร์ที่ผ่านมาได้มีการยิงระเบิดไปที่แถบชานเมืองของ Aden และซาอุดิอาระเบียได้ทำการปิดท่าเรือส่งออกพร้อมกับปิดถนนเพื่อไม่ให้กลุ่มกบฏสามารถติดต่อกับภายนอกประเทศได้
+ ดัชนีภาคการผลิตสหรัฐฯ (Markit PMI) เดือน มี.ค. ปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้ามาอยู่ที่ระดับ 59.2 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่เดือน ส.ค. ปีที่ผ่านมา และมากกว่าที่นักวิเคราห์คาดการณ์ไว้ที่ 58.6 ตัวเลขดัชนีภาคการผลิตที่มากกว่า 50 นั้นเป็นการส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ มีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น
ทิศทางราคาน้ำมันดิบ
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 47-52 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 55-60 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
จับตาปัญหาการสู้รบในเยเมนที่ส่อเค้าทวีความรุนแรงขึ้นหลังซาอุดิอาระเบียได้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มกบฏฮูติเพื่อช่วยเหลือนายอาเบด รับโบ มานซูร์ ฮาดี ประธานาธิบดีเยเมนในการต่อสู้กับกลุ่มกบฏดังกล่าว ทำให้หลายฝ่ายวิตกว่าการสู้รบนี้จะขยายวงกว้างและอาจกระทบต่อการผลิตน้ำมันดิบในภูมิภาคได้ และล่าสุดได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ในด้านการขนส่งและข่าวกรองทางทหาร
จับตาเศรษฐกิจกรีซและยูโรโซนว่าจะเป็นไปในทิศทางใด หลังจากมีการคาดการณ์ว่าการขาดแคลนสภาพคล่องของรัฐบาลกรีซอาจจะนำไปสู่ การผิดนัดชำระหนี้มูลค่า 460 ล้านยูโร หรือ 502.5 ล้าน ให้กับกองทุนระหว่างประเทศ (IMF) ในช่วงต้นเม.ย. นี้ โดยรัฐบาลกรีซจะต้องเสนอแผนปฏิรูปเศรษฐกิจภายในในวันจันทร์ที่ 30 มี.ค. นี้
จับตาการเจรจาระหว่างอิหร่านกับชาติมหาอำนาจทั้งหก ว่าจะสามารถบรรลุกรอบข้อตกลงได้หรือไม่ โดยทุกฝ่ายจะต้องบรรลุข้อตกลงขั้นแรกภายในวันที่ 31 มี.ค.นี้ และต้องได้ข้อตกลงฉบับสมบูรณ์ในวันที่ 1 ก.ค. 58 โดยการเจรจามีจุดมุ่งหมายเพื่อจำกัดศักยภาพด้านนิวเคลียร์ของอิหร่าน เพื่อแลกกับการผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันดิบของอิหร่าน ซึ่งล่าสุดส่งผลให้อิหร่านยังไม่สามารถส่งออกน้ำมันดิบอีกราว 1 ล้านบาร์เรลต่อวันได้ ดังนั้นหากข้อตกลงดังกล่าวบรรลุผล ก็อาจส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง
อุปสงค์น้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับตัวลดลงในเดือน เม.ย. และ พ.ค. นี้ หลังโรงกลั่นน้ำมันทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเอเชีย เริ่มเข้าสู่ฤดูกาลปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่น ในช่วงไตรมาส 2 ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันราคาน้ำมันดิบในช่วงนี้