- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Sunday, 22 March 2015 19:36
- Hits: 1628
เพิ่มสัดส่วนใช้น้ำมันปาล์มในไบโอดีเซล
แนวหน้า : เพิ่มสัดส่วนใช้น้ำมันปาล์มในไบโอดีเซล ป้องกันปัญหาภาวะผลผลิตล้นตลาด
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเพื่อบริหารจัดการปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มด้านการตลาด ครั้งที่ 4/2558 ว่า ขณะนี้ผลปาล์มในประเทศไทยเริ่มออกสู่ตลาด และกลับเข้ามาสู่ภาวะปกติแล้ว อีกทั้งคาดว่าจากนี้ผลผลิตจะออกสู่ตลาดจำนวนมาก ดังนั้นในที่ประชุมจึงมีมติให้กระทรวงพลังงาน ปรับเพิ่มสัดส่วนการใช้น้ำมันปาล์มในไบโอดีเซล จากสูตร B3 ไปเป็น B7 เหมือนเดิม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะผลผลิตปาล์มล้นตลาด ซึ่งจะดึงผลผลิตปาล์มส่วนเกินออกจากตลาดได้ประมาณ 70,000 ตันต่อเดือน โดยให้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2558 เป็นต้นไป อีกทั้งยังได้ประสานทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อให้นำผลผลิตปาล์มไปผลิตไฟฟ้าเพิ่มเติมที่โรงไฟฟ้าที่จังหวัดกระบี่
ทั้งนี้ ยังได้ขอความร่วมมือกับภาคเอกชน ทั้งโรงสกัด และโรงกลั่น ให้รับซื้อผลปาล์มสดจากเกษตรกรในราคาไม่ต่ำกว่า 5 บาท
ต่อกิโลกรัม ซึ่งผลปาล์มต้องเป็นผลปาล์มที่มีคุณภาพ ไม่เป็นผลปาล์มที่เร่งเก็บก่อนกำหนด และจะต้องมีสัดส่วนน้ำมัน 17%รวมถึงมีแผนจะลงไปดูพื้นที่เพาะปลูก เพื่อศึกษาการทำงานของพื้นที่จังหวัดกระบี่ เพราะได้รับรายงานว่าเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพมีการบริหารจัดการที่ดี จึงเหมาะกับการใช้เป็นพื้นที่ต้นแบบในการบริหารจัดการปาล์มน้ำมันต่อไป
อย่างไรก็ตามยอมรับว่าการที่ผลผลิตปาล์มออกสู่ตลาดจำนวนมากขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อราคาปาล์ม ดังนั้นหน่วยงานภาครัฐจึงอยู่ระหว่างการหามาตรการมาช่วยลดผลกระทบ ซึ่งในวันจันทร์ที่ 23 มีนาคม 2558 จะเชิญผู้ผลิต ผู้จำหน่ายปุ๋ย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มาหารือร่วมกันในการหาแนวทางลดต้นทุนการผลิต วิธีการเพาะปลูก การใช้ปุ๋ยให้เหมาะสมในแต่ละพื้นที่เพาะปลูก
นอกจากนี้ จะขอความร่วมมือผู้ประกอบการ ให้จำหน่ายปุ๋ยในราคาประหยัดด้วย เนื่องจากปัจจุบันต้นทุนการเพาะปลูกค่อนข้างสูง รวมถึงบางพื้นที่ยังมีวิธีการปลูก การใช้ปุ๋ย ไม่เหมาะสมกับพื้นที่ จึงต้องมาร่วมกันดูแล และเพื่อดำเนินตามนโยบายนายกรัฐมนตรี ที่ให้หาวิธีการลดต้นทุนให้เกษตรกร อย่างไรก็ตามจากรายงานล่าสุดขณะนี้สต๊อกปาล์มน้ำมันอยู่ที่ 1.5 แสนตัน และจะเพิ่มขึ้นเป็น 2.34 แสนตัน ในเดือนเมษายน 2558 นี้
พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า ในส่วนการระบายข้าวสารในสต๊อกของรัฐบาล ครั้งที่ 3/2558 อาจต้องชะลอการประมูลออกไปก่อน เพราะเกรงว่าจะกระทบต่อราคาข้าวเปลือกในประเทศ ที่ขณะนี้ราคาข้าวเปลือกในประเทศไม่ค่อยดีนัก โดยข้าวเปลือกที่ความชื้นไม่เกิน 15% ยังคงจำหน่ายได้ราคามากกว่า 8,000 บาทต่อตัน แต่เชื่อว่าการที่ประเทศไทยได้โควตาขายข้าวจากประเทศฟิลิปปินส์ 2 แสนตัน และการเจรจาขายข้าวกับประเทศจีน จะช่วยพยุงราคาข้าวได้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการตกลงราคาขายข้าวกับประเทศจีน ร่วมถึงเร่งรัดส่งมอบอยู่ นอกจากนี้ก็อยู่ระหว่างหารือกับประเทศตุรกีและเกาหลีใต้เรื่องการซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐด้วย