- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Sunday, 22 March 2015 19:34
- Hits: 1543
พลังงานจ่อยกระดับ ศก.ภูมิภาค
บ้านเมือง : นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวภายหลังปาฐกถางานสมาพันธ์เศรษฐศาสตร์อาเซียน จัดงาน Beyond AEC 2015 โดยยืนยันว่า หลังการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี ปลายปี 2558 ไทยมีความพร้อมร่วมมือกับกลุ่มประเทศอาเซียน เพื่อยกระดับเศรษฐกิจของภูมิภาค และจากนี้ต้องส่งเสริมธุรกิจรูปแบบเศรษฐกิจดิจิตอล ซึ่งเชื่อว่ารัฐบาลอาเซียนจะเกิดความร่วมมือให้เกิดขึ้น เพื่อเชื่อมโยงการค้า การบริการ และการลงทุนได้สะดวกขึ้น
นอกจากนี้ จะหารือเรื่องความมั่นคงทางพลังงานของกลุ่มอาเซียน โดยจะมีการเจรจาออกกฎระเบียบเชื่อมโยงระบบสายส่งไฟฟ้า หรืออาเซียนกริด ระหว่างประเทศที่ไม่มีชายแดนติดกันเพิ่มเติม จากปัจจุบันที่เชื่อมโยงเฉพาะประเทศที่มีชายแดนติดกันเท่านั้น ส่วนระบบท่อส่งก๊าซและน้ำมัน หรืออาเซียนไปป์ไลน์ มองว่าจำเป็นต้องเชื่อมต่อท่อจากฝั่งตะวันออกไปช่วยเหลือฝั่งตะวันตก เพื่อรองรับความเสี่ยงกรณีแหล่งก๊าซพม่าหยุดซ่อมบำรุงที่จะเกิดขึ้นทุกปี เนื่องจากฝั่งตะวันตกของไทยใช้ก๊าซจากพม่าเป็นหลักในการผลิตกระแสไฟฟ้า โดยยอมรับว่าปริมาณพลังงานสำรองสามารถจัดหาได้ แต่พลังงานทดแทนเป็นสิ่งที่ยาก โดยเชื้อเพลิงหลักยังมาจากก๊าซ น้ำมัน ถ่านหิน
โดยมั่นใจว่าไทยมีความพร้อมรับมือการหยุดซ่อมบำรุงของแหล่งก๊าซพม่า 10-19 เมษายนนี้ โดยได้เตรียมสำรองน้ำมันเตาและน้ำมัน เพื่อใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าแทน รวมถึงจะสั่งซื้อไฟฟ้าจาก สปป.ลาว เพิ่มขึ้นเป็น 300 เมกะวัตต์ จากเดิมอยู่ที่ 200 เมกะวัตต์
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) กล่าวว่า หลังการเปิดเออีซี ไทยจะต้องพัฒนาเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงระบบโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งทางราง ถนน และอากาศ รวมถึงเร่งพัฒนาการเชื่อมโยงพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษระหว่างแนวชายแดน จัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อดึงดูดการค้าการลงทุนและขยายฐานการผลิตในอุตสาหกรรมสำคัญ เช่น กลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์และเกษตร ซึ่งจะช่วยให้ไทยเกิดการแปรรูปวัตถุดิบและส่ง ผลดีต่อการส่งออก โดยในเร็วๆ นี้จะมีการพูดคุยกับกัมพูชาในการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษแบบร่วมทุน และจะมีการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเมยแห่งที่ 2 เพื่อเชื่อมอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก กับจังหวัดเมียวดีของพม่า ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าและลดความแออัดในพื้นที่
ทั้งนี้ การเชื่อมโยงระบบรางจะต้องพัฒนารถไฟให้ครอบคลุมอาเซียนและจีน ส่วนทางอากาศจะมีการเปิดช่องทางการขนส่งสินค้า ส่งเสริมสนามบินภูมิภาค อาทิ สนามบินแม่สอด สนามบินเบตง และส่งเสริมการบินระหว่างประเทศด้วยการเพิ่มเที่ยวบินจากประเทศในภูมิภาคอาเซียนมายังไทยมากขึ้น