- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Friday, 20 March 2015 21:42
- Hits: 2101
กกพ.เล็งปรับค่าไฟฟ้าฐาน ยันไม่สูงกว่าอัตราเดิมโอดคนเมินขอโซลาร์รูฟ
ไทยโพสต์ : วิภาวดีรังสิต * เรกูเลเตอร์จ่อประกาศอัตราค่าไฟฟ้าฐานใหม่ พ.ค.2558 นี้ ยันไม่ให้ปรับสูงขึ้น พร้อมตรวจสอบฐานะการเงินและแผนการลงทุนการไฟฟ้าอย่างละเอียด เผยโครงการโซลาร์รูฟคนสนใจน้อย มีผู้ยื่นสมัครแค่ 7.5 เมกะวัตต์ เตรียมทำสัญญามาตรฐานระหว่างการไฟฟ้าและผู้บริโภค ป้องกันปัญหาเอาเปรียบ
น.ส.นฤภัทร อมรโฆษิต เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) หรือเรกูเลเตอร์ เปิดเผยว่า เรกูเลเตอร์เตรียมประกาศอัตราค่าไฟฟ้าฐานใหม่ในเดือน พ.ค.2558 เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ราคาพลังงานในปัจจุบัน โดยยืนยันจะไม่ให้ค่าไฟฟ้าโดยรวมปรับขึ้นจากปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ประมาณ 3.27 บาทต่อหน่วย เนื่องจากขณะนี้ราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในตลาดโลกปรับลดลงซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญให้ค่าไฟฟ้าฐานไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก
น.ส.นฤภัทรกล่าวว่า ค่าไฟฟ้าฐานเป็นค่าไฟฟ้าที่เกิดการ ลงทุนโรงไฟฟ้า สายส่ง ค่าบริการ ต่างๆ ซึ่งไม่นับรวมค่าเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า ซึ่งในส่วนนี้จัดเป็นค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) ที่จะเปลี่ยนแปลงทุก 4 เดือน ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงค่าไฟฟ้าฐานในครั้งนี้ ทางเรกูเลเตอร์จะเข้าไปตรวจสอบแผนการลงทุนและฐานะการเงินของการไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย, การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (พีอีเอ) และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ว่ามีการลงทุนที่เหมาะสมหรือไม่ โดยหากไม่ได้ลงทุนตามที่กำหนดแผนไว้ จะมีการเรียกเงินคืนให้กับประชาชนในรูปของเอฟที
นอกจากนี้ พบว่า ที่ผ่านมา กฟผ.และ กฟน. จะต้องจ่ายเงิน ให้กับพีอีเอ 11,000 ล้านบาท เพื่อ ชดเชยกรณีที่พีอีเอลงทุนสายส่งไปทั่วประเทศ แต่ขายไฟฟ้าได้ใน ราคาที่เท่ากับ กฟผ.และ กฟน. ดังนั้นเรกูเลเตอร์จึงต้องตรวจสอบว่า พีอีเอได้ลงทุนตามแผนดังกล่าวหรือไม่ หากลงทุนน้อยกว่าที่แจ้งไว้ ทาง กฟผ.และ กฟน. ก็จะลดการจ่ายเงินชดเชยลงได้ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวถือว่าเป็นต้นทุนหนึ่งที่มีผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าของประชาชน
น.ส.นฤภัทร กล่าวว่า เรกูเลเตอร์ยังจะเข้าไปตรวจสอบ การใช้จ่ายเงินของการไฟฟ้าทั้ง 3 แห่งว่าบริหารการเงินเหมาะสมหรือไม่ รวมถึงการคิดค่าบริการไฟฟ้าจากประชาชนที่จัดเก็บอยู่ 38 บาทต่อเดือน ว่าเหมาะสมกับต้นทุนหรือไม่ด้วย เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ใช้ไฟฟ้าต่อไป
ส่วนคืบหน้าการส่งเสริมผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) นั้น ขณะนี้เรกูเลเตอร์ได้เปิดรับซื้อไฟฟ้าโซลาร์รูฟท็อปเพิ่มเติมอีก 70 เมกะวัตต์ สำหรับกลุ่มบ้านเรือนที่อยู่อาศัย เพื่อให้ครบตามเป้าหมายของรัฐบาลที่ 100 เมกะวัตต์ โดยเรกูเลเตอร์เปิดรับสมัครแล้วตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ.-30 มิ.ย.2558 โดยขณะนี้มีผู้แสดงความสนใจยื่นสมัครกับ กฟน.จำ นวน 0.5 เมกะวัตต์ และทางพีอีเอ 7 เมกะวัตต์ ถือว่าน้อยมาก เนื่องจากกำหนดให้แต่ละครัวเรือนผลิตไฟฟ้าได้ไม่เกิน 10 กิโลวัตต์ ทั้งนี้หากหมดเวลาการรับสมัครแล้ว แต่ยังไม่ครบเป้าหมายที่ 100 เมกะวัตต์ ทางเรกูเลเตอร์จะหารือกับกระทรวงพลังงานต่อไปว่าจะเปิดรับเพิ่มหรือไม่
นอกจากนี้ เรกูเลเตอร์ยังมีมาตรการดูแลคุ้มครองผู้ใช้ไฟฟ้าเพิ่มเติม โดยเตรียมออก 'สัญญามาตรฐาน' เพื่อใช้เป็นเกณฑ์ข้อบังคับระหว่างการไฟฟ้ากับผู้บริโภค ซึ่งจะเป็นเกณฑ์ให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้บริโภคมากขึ้น อาทิ กรณีการเก็บค่าไฟฟ้าย้อนหลัง มีกำหนดระยะเวลาย้อนหลังได้ไม่เกิน 6 เดือน, ชำระเงินล่าช้า ต้องตัดไฟฟ้าในวันเสาร์หรืออาทิตย์ เป็นต้น.