- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Tuesday, 10 February 2015 22:54
- Hits: 1927
ก.พลังงาน เผยยอดสถานีบริการ NGV 497 แห่ง คลุม 54 จังหวัด เชื่อแก้ปัญหาคิวรอเติมก๊าซในสถานีเป็นไปตามแผน
มีการจัดหารถขนส่งแก๊ส เพิ่มหัวจ่าย เปลี่ยนสถานีน้ำมันเป็น NGV ช่วยชั่วโมงเร่งด่วน รับรถได้รวม 56,600 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วง 2555 ได้สูงถึง 9,600 คัน
นายทวารัฐ สูตะบุตร รองปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า แนวทางการพิจารณาราคาขายปลีกก๊าซธรรมชาติที่ใช้รถยนต์หรือ NGV ตามนโยบายของกระทรวงพลังงานยังคงส่งเสริมให้ราคาสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ซึ่งถือเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลในการปรับโครงสร้างราคาพลังงานให้เป็นธรรมยิ่งขึ้น โดยเบื้องต้นกระทรวงพลังงานยังมีมาตรการลดผลกระทบให้กลุ่มรถสาธารณะ เช่น รถแท็กซี่ และรถร่วมบริการฯ ซึ่งถือเป็นกลุ่มสำคัญที่กระทรวงพลังงานให้การส่งเสริมใช้ NGV เป็นเชื้อเพลิง ได้ใช้ NGV ในราคาพิเศษ นอกจากนี้ ด้านแนวทางการลดการแก้ไขปัญหาคิวรอเติมก๊าซ NGV ที่สถานีบริการ กระทรวงพลังงานก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้สั่งการให้ ปตท. เร่งแก้ไขปัญหามาอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่าขณะนี้ มียอดจำนวนสถานีบริการ NGV (ณ ม.ค. 2558) 497 แห่ง ครอบคลุม 54 จังหวัด ซึ่งผลการแก้ไขปัญหานั้น ได้ทราบว่า ปตท. มีการจัดหารถขนส่งก๊าซเพื่อเพิ่มความสามารถการขนส่งในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน การเพิ่มหน้าจ่าย NGV รวมไปถึงการเปิดสถานี NGV ใหม่ การปรับเปลี่ยนสถานีบริการน้ำมันให้เป็นสถานีบริการ NGV และการขยายกำลังการจำหน่ายของสถานี NGV เป็นต้น
โดย แนวทางการบริหารจัดการดังกล่าว ประกอบกับการจัดสรรก๊าซ NGV เพิ่มให้แก่สถานีบริการ ในเขตกรุงเทพชั้น การประชาสัมพันธ์และบริการคิวการเติมของรถที่จะมาใช้บริการ พบว่า ในช่วงเร่งด่วน (peak time) ระหว่าง 12.00 - 16.00 น. สามารถรองรับรถที่ใช้ NGV ได้ทั้งสิ้น 56,600 คัน หรือมีศักยภาพรองรับรถได้เพิ่มขึ้นประมาณ 9,600 คัน เมื่อเทียบจากช่วงปี 2555 ที่ผ่านมา
“ราคาก๊าซ NGV ได้ถูกตรึงราคาไว้ต่ำและนานเกินไป ทำให้เกิดโครงสร้างการใช้ที่บิดเบือน ดังนั้นกระทรวงพลังงานจึงใช้โอกาสช่วงที่น้ำมันมีราคาต่ำ ปรับโครงสร้างราคา NGV ใหม่ โดยยังพร้อมที่จะบรรเทาผลกระทบของผู้ประกอบการรถสาธารณะ รวมทั้งความพยายามที่จะลดปัญหาอื่นๆ เช่น ก๊าซไม่เพียงพอ การรอคิวนาน กระทรวงพลังงานเชื่อว่าเมื่อปล่อยให้ธุรกิจ NGV ไปตามกลไกตลาด และมีราคาขายสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง กิจการ NGV จะประสิทธิภาพสูงขึ้นและมีโอกาสเติบโต รองรับการให้บริการที่จะสะดวกมากยิ่งขึ้นในอนาคต”นายทวารัฐกล่าว