- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Friday, 06 February 2015 21:55
- Hits: 2160
ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม จากความกังวลเหตุความรุนแรงในลิเบียและเหตุโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันของกรีซ
+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น จากประเด็นความรุนแรงที่เกิดขึ้นในลิเบียอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลให้ตลาดเกิดความกังวลว่าเหตุการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำดิบในลิเบีย ประกอบกับมีการรายงานว่าเรือบรรทุกน้ำมันดิบ Kalamos ของกรีซ ซึ่งทำการบรรทุกน้ำมันดิบพร้อมลูกเรือ 23 คน จากประเทศจีนไปยังประเทศไนจีเรียถูกโจมตีขณะรอขนถ่ายสินค้าบริเวณน่านน้ำไนจีเรีย โดยเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ผู้ช่วยกัปตันเสียชีวิต และลูกเรือ 3 คน ถูกจับเป็นตัวประกัน
+ ธนาคารกลางจีน ประกาศปรับลดสัดส่วนปริมาณเงินการสำรอง (RRR) ของธนาคารพาณิชย์ลง 0.50% เหลือ 19.5% ซึ่งจะส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์จีนปรับลดปริมาณเงินสำรองลงได้ 6 แสนล้านหยวน (9.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ) ทั้งนี้ การปรับลดปริมารกาณสำรองเงินดังกล่าวจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจและกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ หลังจากที่เศรษฐกิจจีนต้องเผชิญกับการชะลอตัวของอัตราการบริโภคภายในประเทศและภาคการส่งออก
+ กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงาน จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 31 ม.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 11,000 ราย สู่ระดับ 278,000 ราย ต่ำกว่าที่คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 290,000 ราย อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ปรับลดลง 6,500 ราย สู่ระดับ 292,750 ราย ทั้งนี้ การปรับลดลงของตัวเลขดังกล่าวนับเป็นปัจจัยบ่งชี้สถานะการฟื้นตัวของตลาดแรงงานที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพการผลิตของแรงงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ ประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2557 ปรับลดลง 1.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า สวนทางกับที่คาดว่าจะอยู่ในระดับทรงตัว ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจในระยะยาวอาจชะลอตัวลง
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ อย่างไรก็ตาม ปริมาณอุปทานที่ยังคงล้นตลาด จากประเทศแถบตะวันออกกลาง อินเดีย ใต้หวัน และมาเลเซีย นอกจากนั้น ตลาดน้ำมันดีเซลยังได้รับแรงกดดันจากกำลังการผลิตของโรงกลั่นในประเทศสิงคโปร์และเกาหลีใต้ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากแรงจูงใจด้านส่วนต่างระหว่างน้ำมันดิบและน้ำมันดีเซลที่อยู่ในแนวโน้มดี
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงในทิศทางเดียวกับราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องมาปริมาณอุปทานในที่ยังคงล้นตลาดจากผู้ผลิตภายในภูมิภาคและยุโรป อย่างไรก็ตาม ตลาดคาดว่าปริมาณอุปสงค์มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นจากประเทศมาเลซียและปากีสถาน
ทิศทางราคาน้ำมันดิบ
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 46-51 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 52-57 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
จับตาเศรษฐกิจของยูโรโซน ซึ่งกรีซกำลังเผชิญกับแรงกดดันอีกครั้ง หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยืนยันว่าจะไม่ยอมรับการใช้พันธบัตรรัฐบาลกรีซมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้เพื่อระดมทุนครั้งใหม่ เนื่องจากพันธบัตรของรัฐบาลกรีซอยู่ในระดับ “ขยะ” (junk) ซึ่งอยู่ต่ำกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำของ ECB ซึ่งท่าทีล่าสุดของ ECB ได้สร้างความวิตกกังวลแก่นักลงทุนเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจยูโรโซน ส่งผลให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ
บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ ได้แก่ บีพี และ เชฟรอน รวมถึงบริษัทน้ำมันอื่นๆ เริ่มปรับลดงบประมาณการลงทุนในปีนี้ เพื่อรับมือกับภาวะราคาน้ำมันตกต่ำ อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าจะมีการชะลอการลงทุนเพิ่มเติมหรือไม่ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้อุปทานส่วนเกินของน้ำมันดิบลดลง และหนุนให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นได้
ติดตามการประท้วงโดยสหภาพแรงงานของโรงกลั่นน้ำมัน 9 แห่งในสหรัฐฯ หลังจากการเจรจาด้านแรงงานระหว่างแกนนำสหภาพและโรงกลั่นน้ำมันยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ ส่งผลให้ไม่สามารถต่อสัญญาจ้างงานฉบับใหม่กับบริษัทน้ำมันได้ โดยสาเหตุมาจากความไม่พอใจ เหตุโรงกลั่นไม่ใส่ใจคุณภาพชีวิตของแรงงาน โดยการประท้วงครั้งนี้ ถือเป็นการหยุดงานประท้วงของแรงงานโรงกลั่นน้ำมันทั่วประเทศครั้งแรก และใหญ่ที่สุดในรอบ 35 ปี ซึ่งกระทบต่อกำลังการกลั่นน้ำมันของสหรัฐถึงร้อยละ 10 และส่งผลให้ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสูงขึ้น