- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Monday, 02 February 2015 21:00
- Hits: 2856
พลังงาน จ่อรีดภาษีก๊าซแอลพีจี คลังรับลูก!ย้ำเก็บราคาหน้าโรงงาน
ไทยโพสต์ * พลังงานเล็งรีดภาษีก๊าซแอลพีจี หวังให้สะท้อนราคาต้นทุน ลดบิดเบือนการใช้ พร้อมเดินหน้าขึ้นภาษีดีเซลอีก 1 บาท เพิ่มรายได้เข้ารัฐ คลังรับลูก ยันรีดภาษีแอลพีจีจากราคาหน้าโรงงานเท่านั้น รอฝ่ายนโยบายเคาะ
นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ส่วนหนึ่งของแผนปรับโครงสร้างพลังงาน จะมีการโยกการเก็บเงินเข้ากองทุนของน้ำมันดีเซลไปเป็นการเก็บภาษีสรรพสามิตเพิ่มอีก 1 บาทต่อลิตร ส่งผลให้การเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลจากปัจจุบัน 3.25 บาทต่อลิตร เป็น 4.25 บาทต่อลิตร ใกล้เคียงกับการเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันเบนซิน และปีนี้จะไม่มีการปรับขึ้นหรือลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันทุกชนิดอีกแล้ว เพราะเป็นระดับที่กระทรวงการคลังได้รายได้พอประมาณระดับหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ยังจะมีการเก็บภาษีสรรพสามิตก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาและยังไม่ได้ข้อสรุป จึงยังเปิดเผยรายละเอียดไม่ได้
"ยอมรับว่า ที่ผ่านมารัฐบาลมีแนวคิดที่จะจัดเก็บภาษีก๊าซแอลพีจีให้เหมือนกับน้ำมันตัวอื่น เพราะที่ผ่านมามีการผ่อนปรนภาษีในส่วนนี้มามากพอสมควรแล้ว และราคาขายจริงไม่สะท้อนต้นทุน ดังนั้น จึงมีความจำเป็นที่ต้องเก็บภาษีตรงนี้ เพื่อดันให้ราคาขยับปรับขึ้นมาสะท้อนราคาต้นทุนมากที่สุด ขณะที่ภาษีสรรพสา มิตน้ำมันเบนซิน ยืนยันว่ารัฐบาลยังไม่มีนโยบายที่จะดำเนินการในส่วนนี้แต่อย่างใด" นายณรงค์ชัยกล่าว
ก่อนหน้านี้ คณะกรรม การบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ได้มีมติให้ลอยตัวราคาก๊าซแอลพีจี โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 2 ก.พ.2558 เป็นต้นไป ซึ่งจะมีการประกาศราคาทุกเดือนตามราคาต้นทุนที่แท้จริง ซึ่งเฉลี่ยมาจากราคาหน้าโรงแยกก๊าซธรรมชาติ หน้าโรงกลั่น และราคานำเข้าจากตลาดโลก
ทั้งนี้ การลอยตัวราคาแอลพีจีเดือนแรก กบง.จะ ให้ตรึงราคาไว้ที่ราคาปัจจุบัน 24.16 บาทต่อกิโลกรัมไปตลอดเดือน ก.พ.2558 ก่อน โดยพิจารณาจากราคาแอลพีจีตลาดโลกที่ปัจจุบันอยู่ระดับ 462 เหรียญสหรัฐต่อตัน และจะทำให้มีเงินไหลเข้าบัญชีกองทุนแอลพีจีที่จัดตั้งขึ้นใหม่เป็นจำนวน 53 สตางค์ต่อกิโลกรัม โดยปัจจุบันมียอดใช้แอลพีจีทั้งประเทศ 7.9 ล้านตันต่อปี ส่วนเดือนถัดไปจะปรับเปลี่ยนตามราคาตลาดโลก
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เป้าหมายการเก็บภาษีสรรพสามิตก๊าซแอลพีจี เพื่อต้องการให้ราคาขึ้นมาใกล้เคียงกับราคาน้ำมันมากขึ้น จะได้ไม่มีการบิดเบือนการใช้ก๊าซแอลพีจีในภาคขน ส่งเหมือนในปัจจุบัน โดยอยู่ระหว่างการศึกษาว่า เมื่อลอย ตัวราคาก๊าซแอลพีจีเต็มที่แล้ว ต้องเก็บภาษีสรรพสามิตอีกกี่บาท เพื่อให้ราคาใกล้กับราคาน้ำมัน
อย่างไรก็ตาม การเก็บภาษีสรรพสามิตก๊าซแอลพีจี ต้องเก็บจากราคาหน้าโรงงาน ซึ่งจะทำให้กระทบกับก๊าซแอลพีจีที่ใช้ในภาคครัวเรือนไปด้วย
"กระทรวงการคลังยืน ยันว่า การเก็บภาษีสรรพสามิตก๊าซแอลพีจีต้องเก็บจากหน้าโรงงานเท่านั้น ไม่สามารถเก็บแยก หรือเก็บเฉพาะภาคขนส่งได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ฝ่ายนโยบายต้องตัดสินใจ หากมีการเก็บภาษีก๊าซแอลพีจี และต้องการดูแลผู้ใช้ก๊าซแอลพีจีภาคครัว เรือน ก็ต้องให้กระทรวงพา ณิชย์เข้ามาร่วมดูแล รวมถึง การดูแลสินค้าของภาคอุตสาห กรรมด้วย เพราะภาคอุตสาห กรรมมีการใช้ก๊าซแอลพีจีในกระบวนการผลิตสินค้า ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น" แหล่งข่าวกล่าว
แหล่งข่าวกล่าวว่า กรมสรรพสามิตสามารถเก็บภาษีก๊าซแอลพีจีได้ทันที เพราะกฎหมายมีเพดานการเก็บภาษีเชื้อเพลิงอยู่แล้ว แต่จะเก็บเท่าไรและเวลาไหน ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของฝ่ายการเมือง.