WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังค่าเงินเหรียญสหรัฐฯ อ่อนตัวลง ขณะสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมยังคงแข็งแกร่ง

  +ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น  เนื่องจากค่าเงินเหรียญสหรัฐฯ ที่ปรับตัวอ่อนค่าลงหลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนประจำเดือน ธ.ค. ปรับตัวลดลง 3.4% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า สวนทางกับที่คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 0.7%

  + ยอดจำหน่ายบ้านใหม่สหรัฐฯ ในเดือน ธ.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 11.6% มายืนอยู่ที่ระดับ 481,000 ยูนิต สูงกว่าที่คาดว่าจะปรับตัวเพื่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 452,000 ยูนิต เนื่องจากแรงสนับสนุนของราคาบ้านที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในกรอบจำกัดที่ 2.2% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า และอยู่ในระดับต่ำกว่าราคาเฉลี่ยของปีก่อนหน้าราว 8.2%

  + ดัชนีชี้วัดภาคการผลิตสหรัฐฯ (Flash PMI) ประจำเดือน ม.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 54.0 จุด จากระดับ 53.6 จุด ในเดือนก่อนหน้าและสูงกว่าที่คาดว่าจะปรับตัวมาอยู่ที่ระดับ 53.8 จุด ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่อยู่เหนือระดับ 50.0 จุด นับเป็นการบ่งชึ้ว่าภาคการผลิตสหรัฐฯ ยังคงสามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง

  - สถาบันปิโตรลียมด้านพลังงานของสหรัฐฯ (API) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสิ้นสุดสัปดาห์ที่ 23 ม.ค.57 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 12.7 ล้านบาร์เรล มาแตะที่ระดับ 405.1 ล้านบาร์เรล สูงกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มเพียง 4.1 ล้านบาร์เรล โดยมีสาเหตุหลักจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบ ส่วนน้ำมันดิบคงคลัง ณ จุดส่งมอบโอกลาโฮมา ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรล ขณะที่ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังปรับตัวลดลง 5.0 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 0.3 ล้านบาร์เรล และปริมาณน้ำมันเพื่อใช้ให้ความร้อนปรับตัวลดลง 0.6 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าที่คาดว่าจะปรับลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล

  +/- นายอับดุลลา อัล-บาดรี เลขาธิการทั่วไปของโอเปกออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องมาแตะระดับ ณ ปัจจุบันเริ่มเข้าสู่ระดับต่ำสุดแล้วและอาจจะปรับตัวกลับขึ้นในเร็วๆ นี้  ทั้งนี้ ในอนาคตคาดว่าราคาน้ำมันดิบอาจปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงกว่า 200 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เนื่องจากสถานการณ์ด้านการลงทุนน้ำมันดิบที่คงชะลอตัวลงมากเกินไปจนอาจส่งผลให้เกิดการขาดแคลนน้ำมันดิบขึ้นในอนาคต

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปทานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปริมาณการส่งออกของภูมิภาคเอเชียเหนือ ประกอบกับอุปสงค์ในภูมิภาคที่ยังคงอยู่ในสภาวะอ่อนแรง โดยเฉพาะในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เช่น ประเทศอินโดนีเซียและประเทศมาเลเซีย

  ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงใกล้เคียงกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดยังคงเผชิญกับสภาวะอุปทานล้นตลาดอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลจากแรงกดดันอุปทานที่เพิ่มขึ้นจากปริมาณการส่งออกของภูมิภาคเอเชียเหนือ ตะวันออกกลางและยุโรป อย่างไรก็ดี อุปสงค์ในเวียดนามมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นเพื่อเตรียมรองรับความต้องการในช่วงเทศกาลตรุษจีน แต่ตลาดคาดว่าอุปทานที่มีอยู่ในตลาดจะมีเพียงพอสำหรับความต้องการดังกล่าว

ทิศทางราคาน้ำมันดิบ

  ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์หน้าจะเคลื่อนไหวที่กรอบ 45-50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 47-52 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

  จับตาการประชุมเฟด ในวันที่ 27-28 ม.ค. นี้ ว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.25% หรือไม่ ทั้งนี้เฟดเคยส่งสัญญาณว่าจะยังไม่เริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ยภายในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ โดยมองว่าการพิจารณาการขึ้นดอกเบี้ยขึ้นกับข้อมูลทางเศรษฐกิจ เช่น อัตราเงินเฟ้อ และอัตราว่างงาน หากเฟดตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จะส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง เนื่องจากนักลงทุนหันไปลงทุนในตลาดเงินมากขึ้น เพราะได้รับผลตอบแทนที่ดีขึ้น

  จับตาทิศทางเศรษฐกิจของยูโรโซนว่าจะสามารถฟื้นตัวได้ดีขึ้นหรือไม่ หลัง ECB ประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังซบเซาและรับมือกับภาวะเงินฝืดในยูโรโซน โดยล่าสุด ECB ได้วางแผนซื้อพันธบัตรจำนวน 6 หมื่นล้านยูโร (6.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ) ต่อเดือน เพื่ออัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบ โดยมาตรการนี้จะมีผลตั้งแต่เดือน มี.ค. 2558 จนถึงเดือน ก.ย. 2559

  ติดตามวิกฤติเศรษฐกิจของรัสเซีย หลังเศรษฐกิจของประเทศได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันดิบที่ตกต่ำ รวมทั้งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ หลังเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรจากกลุ่มประเทศตะวันตก  ส่งผลให้ค่าเงินรูเบิลอ่อนค่าลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!