- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Friday, 23 January 2015 21:47
- Hits: 2534
ราคาน้ำมันดิบปรับลดหลังจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังเพิ่มขึ้นมากสุดในรอบ 14 ปี
-/+ประธานาธิบดี อับดราบู มันซูร์ ฮาดี ของเยเมน ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งแล้ว หลังจากเกิดเหตุการณ์ยึดทำเนียบประธานาธิบดี และทำการโจมตีบ้านพักของประธานาธิบดี อับดราบู มันซูร์ ฮาดี อย่างไรก็ตาม การลาออกขอประธานาธิบดี อับดราบู มันซูร์ ฮาดี ของเยเมน ไม่ได้ส่งผลทำให้ปัญหาอุปทานน้ำมันล้นตลาดคลี่คลายแต่อย่างใด
+ มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งได้ประกาศที่จะซื้อหุ้นกู้และพันธบัตรของรัฐบาลต่างๆ ในยุโรป เป็นเงินจำนวน 6 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน โดยจะเริ่มในเดือนมีนาคมปีนี้และจะสิ้นสุดในเดือนกันยายนปีหน้านั้น ได้เพิ่มความหวังของนักลงทุนที่จะเห็นการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์น้ำมันในภูมิภาคยุโรปจากเศรษฐกิจของยุโรปที่จะดีขึ้นจากการทำมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณของธนาคารกลางยุโรปในรอบนี้
- อย่างไรก็ตาม จากการทำมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณของธนาคารกลางยุโรปในรอบนี้ได้ส่งผลทำให้ค่าเงินดอลลาร์ของสหรัฐฯ ปรับตัวแข็งขึ้นร้อยละ 1.33 ทันทีหลังจากรัฐบาลกลางยุโรป ได้ประกาศที่จะทำมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ ซึ่งอาจจะส่งผลทำให้ตลาดซื้อขายน้ำมันซบเซาลงไปอีก จากการที่นักลงทุนที่ไม่ได้ถือเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ ต้องซื้อน้ำมันดิบในราคาที่สูงยิ่งขึ้น
+/- กระทรวงแรงงานของสหรัฐฯ ได้เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ ที่ระดับ 307,000 ราย ลดลง 10,000 ราย ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 300,000 ราย ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกันที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกอยู่สูงกว่าระดับ 300,000 ราย
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปทานส่วนเกินในตลาดยังคงกดดันราคาน้ำมันเบนซินอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าจะมีอุปสงค์ตามฤดูกาลจากประเทศเวียดนามที่กำลังเข้าสู่เทศกาลเฉลิมฉลองปีใหม่ของประเทศตามปฏิทินจันทรคติ
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ ถึงแม้ว่าโรงกลั่น Orpic ของประเทศโอมานจะทำการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นขนาด 116,000 บาร์เรลต่อวัน เนื่องจากน้ำมันดีเซลยังได้รับแรงกดดันจากการเร่งการส่งออกน้ำมันดีเซลจากภูมิภาคเอเชียเหนือโดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่นที่ได้ส่งออกน้ำมันดีเซลมากขึ้น
ทิศทางราคาน้ำมันดิบ
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์หน้าจะเคลื่อนไหวที่กรอบ 45-50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 47-52 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
จับตาท่าทีของผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปก ท่ามกลางภาวะอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาดที่คอยกดดันราคาน้ำมันดิบให้อยู่ในระดับต่ำ หลังผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่อย่าง ซาอุดิอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ยืนยันไม่ปรับลดกำลังการผลิต แต่กลับประกาศปรับลดราคาขายน้ำมันดิบ (OSPs) สำหรับเดือน ก.พ. ที่จะขายไปยังตลาดสหรัฐฯ และยุโรป เพื่อรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดจากผู้ผลิต Shale Oil และผู้ผลิตในแอฟริกาไว้
ติดตามการประชุมอีซีบีในวันที่ 22 ม.ค. นี้ โดยนักลงทุนต่างคาดหวังว่าอีซีบีจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมผ่านนโยบายผ่อนคลายทางการเงินในรูปแบบ QE หลังนายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบีเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้เตรียมที่จะลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งต้องตามดูว่าจะเข้าซื้อในวงเงินเท่าใด และจะออกใช้มาตรการนี้เมื่อใด
ติดตามวิกฤติเศรษฐกิจของรัสเซีย หลังเศรษฐกิจของประเทศได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันดิบที่ตกต่ำ รวมทั้งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ หลังเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรจากกลุ่มประเทศตะวันตก ส่งผลให้ค่าเงินรูเบิลอ่อนค่าลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์