- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Sunday, 18 January 2015 08:28
- Hits: 2775
ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังมีการคาดการณ์อุปสงค์กลุ่ม OPEC ปี 58 มีแนวโน้มชะลอตัว
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลังกลุ่มโอเปกมีการรายงานผลการคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันดิบของกลุ่มในปี 2558 ที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 28.78 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตํ่ากว่าผลการคาดการณ์ในช่วงก่อนหน้าราว 0.14 ล้านบาร์เรลต่อวัน และถือเป็นระดับตํ่าสุดนับตั้งแต่ปี 2547
- นอกจากนั้น ราคาน้ำมันดิบยังคงได้รับแรงกดดัน หลัง Bank of America Merrill Lynch คาดว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์มีแนวโน้มปรับตัวลดลงมาแตะที่ระดับ 31 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ในช่วงปลายไตรมาสที่ 1 ของปี 2558 เนื่องจากปริมาณอุปทานน้ำมันดิบโลกที่ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์โดยเฉลี่ยในปี 2558 มีแนวโน้มยืนอยู่ที่ระดับ 52 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปรับลดลงจากผลการคาดการณ์ก่อนหน้าที่ 77 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสมีแนวโน้มยืนอยู่ที่ระดับ 50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล จากระดับการคาดการณ์ก่อนหน้าที่ 72 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ขณะที่ในปี 2559 ราคาน้ำมันดิบเบรนท์คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ ณ ระดับเฉลี่ย 58 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอยู่ที่เฉลี่ย 57 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
- ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ประจำเดือน ธ.ค. 58 ปรับตัวลง 0.3% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้ามาแตะ ณ ระดับต่ำสุดนับตัง้ แต่เดือน ต.ค. 54 นับเป็นการบ่งชี้ว่ามูลค่าของปัจจัยการผลิตหลักในภาคอุตสาหกรรมสหรัฐฯ มีระดับราคาที่ปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ จากผลการรายงานเบื้องต้นพบว่า การปรับตัวของราคาพลังงานถือเป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ดัชนี PPI หดตัวลงในเดือน ธ.ค.
- กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 10 ม.ค. 58 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 19,000 ราย สู่ระดับ 316,000 ราย สูงกว่าที่คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มเพียง 6,000 ราย และนับเป็นการปรับเพิ่มขึน้ ในระดับสูงสุดนับตั้งแต่ต้นเดือน ก.ย. 2557 อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเฉลี่ย 4 สัปดาห์ พบว่าปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 6,750 ราย สู่ระดับ 298,000 ราย โดยอยู่ต่ำกว่าระดับ 300,000 รายเป็นเวลา 18 สัปดาห์ติดต่อกัน นับเป็นสัญญาณที่แสดงถึงสภาวะตลาดแรงงานสหรัฐฯ โดยรวมที่ยังฟื้นตัวอยู่อย่าง
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปสงค์ในภูมิภาคที่มีแนวแน้มรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากระเทศผู้นำเข้าหลักเช่น อินโดนีเซีย อย่างไรก็ดี สภาวะตลาดน้ำมันเบนซินโดยรวมยังคงได้รับแรงกดดันจากอุปทานที่ยังคงล้นตลาดอย่างต่อเนื่อง
ราคานํ้ามันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่าอุปทานในภูมิภาคมีแนวโน้มปรับตัวลดลง หลังจีนมีการปรับลดโควต้าการส่งออกน้ำมันดีเซล ในปี 2558 ลง เนื่องจากปริมาณอุปสงค์ในประเทศมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น
ทิศทางราคาน้ำมันดิบ
ไทยออยล์ คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์หน้าจะเคลื่อนไหวที่กรอบ 45-50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 46-51 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
• จับตาท่าทีของผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปก ท่ามกลางภาวะอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาดที่คอยกดดันราคาน้ำมันดิบให้อยู่ในระดับต่ำ หลังผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่อย่าง ซาอุดิอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ยืนยันไม่ปรับลดกำลังการผลิต แต่กลับประกาศปรับลดราคาขายน้ำมันดิบ (OSPs) สำหรับเดือน ก.พ. ที่จะขายไปยังตลาดสหรัฐฯ และยุโรป เพื่อรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดจากผู้ผลิต Shale Oil และผู้ผลิตในแอฟริกาไว้
• ติดตามการประชุมอีซีบีในวันที่ 22 ม.ค. นี ้โดยนักลงทุนต่างคาดหวังว่าอีซีบีจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมผ่านนโยบายผ่อนคลายทางการเงินในรูปแบบ QE หลังนายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบีเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้เตรียมที่จะลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งต้องตามดูว่าจะเข้าซื้อในวงเงินเท่าใด และจะออกใช้มาตรการนี้เมื่อใด
• ติดตามวิกฤติเศรษฐกิจของรัสเซีย หลังเศรษฐกิจของประเทศได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันดิบที่ตกต่ำ รวมทัง้ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ หลังเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรจากกลุ่มประเทศตะวันตกส่งผลให้ค่าเงินรูเบิลอ่อนค่าลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์