- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Monday, 12 January 2015 22:15
- Hits: 2153
ไทยออยล์ คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 47-52 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 50-55 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
“ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 47-52 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 50-55 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล”
แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ (12-16 ม.ค. 58)
ราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้คาดว่าจะลดลงต่อเนื่อง หลังจากผู้ผลิตทั้งในกลุ่มโอเปกและนอก
กลุ่มโอเปกยังไม่มีทีท่าที่จะลดกำลังการผลิตลง โดยซาอุดิอาระเบียยืนยันว่ายังสามารถรับมือกับราคาน้ำมันดิบที่อยู่ในระดับต่ำได้ นอกจากนี้ ต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจของยูโรโซนที่ยังคงซบเซา รวมถึงวิกฤติเศรษฐกิจของรัสเซีย หลังเศรษฐกิจของประเทศได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันดิบที่ตกต่ำ รวมทั้งต้องเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรจากกลุ่มประเทศตะวันตก ส่งผลให้ค่าเงินรูเบิลอ่อนค่า
ลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ อย่างไรก็ดี เหตุการณ์ความไม่สงบในลิเบียที่ส่งผลให้ท่าเรือส่งออกน้ำมันดิบปิดดำเนินการ ซึ่งส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันดิบจากลิเบีย
ปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้:
ติดตามภาวะอุปทานน้ำมันดิบที่ล้นตลาด หลังจากผู้ผลิตทั้งในกลุ่มโอเปกและนอกโอเปกยังไม่มีทีท่าที่จะลดกำลังการผลิตลง อย่างไรก็ดี ซาอุดิอาระเบียยืนยันว่าตนยังสามารถรับมือกับราคาน้ำมันดิบที่อยู่ในระดับต่ำได้ แม้ว่าราคาน้ำมันที่ทรุดตัวลงจะส่งผลให้ประเทศขาดดุลงบประมาณปี 58 ที่ระดับ 3.86 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯหลังจากที่มีงบประมาณเกินดุลอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลาหลายปี
จับตาสถานการณ์เศรษฐกิจของยูโรโซนที่ยังคงซบเซา หลังค่าเงินยูโรเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงต่อเนื่อง โดยปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำที่สุดตั้งแต่ปี 2549 สาเหตุหลักมาจาก ท่าทีของธนาคารกลางยุโรป ( ECB) ที่คาดว่าอาจจะมีการใช้มาตรการซื้อพันธบัตร (QE) เพื่อพยุงเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังมีความกังวลในประเด็นการเลือกตั้งของกรีซที่จะจัดขึ้นในวันที่ 25 ม.ค. 57 ซึ่งเป็นการชี้ชะตาว่ากรีซจะสามารถรั้งสถานภาพการเป็นสมาชิกยูโรโซนต่อไปได้หรือไม่ ซึ่งหากพรรคฝ่ายค้าน ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง ก็อาจส่งผลให้กรีซเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ และพ้นจากการเป็นชาติสมาชิกของยูโรโซน เนื่องจากหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านมีแนวโน้มที่จะยุติมาตรการรัดเข็มขัด ซึ่งขัดแย้งกับเงื่อนไขที่กลุ่มยูโรโซนตั้งไว้
ติดตามวิกฤติเศรษฐกิจของรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลก หลังเศรษฐกิจของประเทศได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันดิบที่ตกต่ำ รวมทั้งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ หลังเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรจากกลุ่มประเทศตะวันตก ส่งผลให้ค่าเงินรูเบิลอ่อนค่าลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์
จับตาเหตุการณ์ความไม่สงบในลิเบีย หลังกลุ่มกบฎติดอาวุธวางระเบิดถังเก็บน้ำมันที่ท่าเรือส่งออกน้ำมันดิบ Es Sider ซึ่งส่งผลให้ปิดดำเนินการเป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์ โดยถังเก็บน้ำมันได้รับความเสียหายและส่งผลให้การผลิตน้ำมันดิบโดยรวมของประเทศปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับ 380,000 บาร์เรลต่อวัน จากเดิมที่ผลิต 800,000 บาร์เรลต่อวันในช่วงปลายปีที่ผ่านมา
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดค้าปลีก ดัชนีราคาผู้ผลิต และดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐฯ และดัชนีราคาผู้บริโภคยูโรโซน
สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (5-9 ม.ค. 58)
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับลดลง 5.73 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปิดที่ 48.36 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับลดลง 6.31 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปิดที่ 50.11 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบปรับตัวลดลงเช่นกันมาอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 48 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับอุปทานที่ล้นตลาด จากการคงอัตราการผลิตของกลุ่มโอเปกที่ 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน และปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของรัสเซียในเดือน ธ.ค. 57 ที่เพิ่มขึ้นมาแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ ค่าเงินยูโรที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ ประกอบกับปริมาณการซื้อขายที่เบาบางในช่วงวันหยุดยาวของเทศกาลปีใหม่เป็นปัจจัยกดดันราคาน้ำมันให้ลดลงต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่ลดลงสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ และตัวเลขอัตราการจ้างงานในภาคเอกชนของสหรัฐฯในเดือน ธ.ค. 57 ที่ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าคาด มีส่วนพยุงราคาน้ำมันดิบ