- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Saturday, 10 January 2015 00:26
- Hits: 3075
ราคาน้ำมันดิบWTI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นวันที่2 ติดต่อกัน หลังตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯออกมาดีเกินคาด
+/-ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสของสหรัฐฯ ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันหลังจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ ในส่วนน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวลดลงเล็กน้อย หลังจากราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบยังคงมีแนวโน้มปรับลงอย่างต่อไป จากสภาวะอุปทานที่ยังคงล้นตลาดในขณะนี้
+ จำนวนผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ ที่ประกาศโดยกระทรวงพาณิชย์ มีจำนวนลดลง 4,000 ราย ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 294,000 รายในสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ในปี 2557 ที่ผ่าน สหรัฐฯ มีตัวเลขการลดจำนวนพนักงงานอยู่ที่ 483,171 ลดลง 5% จากปี 2556 และเป็นตัวเลขที่น้อยที่สุดตั้งแต่ปี 2540 โดยตัวเลขเหล่านี้สะท้อนถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องในตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
- ยอดค้าปลีกของยูโรโซน ที่เปิดเผยโดยสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป เพิ่มขึ้น 1.5% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์เล็กน้อยที่ 1.6% สะท้อนถึงเศรษฐกิจของสหภาพยุโรปที่ยังคงไม่ฟื้นตัวจากสภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา
+ จากราคาน้ำมันดิบโลกที่ลดลง ทำให้จีนที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย เพิ่มการนำเข้าน้ำมันดิบจากต่างประเทศ เพื่อสำรองน้ำมันดิบเชิงยุทธศาตร์ โดยเดือนที่ผ่านมาประเทศได้นำเข้าน้ำมันเฉลี่ยวันละ 7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ทำในขณะนี้ ประเทศจีนมีสำรองน้ำมันเชิงยุทธศาสตร์มากกว่า 30 วัน โดยประเทศจีนได้ตั้งเป้าหมายการสำรองน้ำมันเชิงยุทธศาสตร์อยู่ที่ 90 วัน หรือ 600 ล้านบาร์เรล
+/- มีรายงานว่าผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ เช่น Vitol Trafigura และ Shell ได้เริ่มมีการจ้างเรือบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่เพื่อเก็บสะสมน้ำมันดิบในทะเลเพื่อรับมือกับสภาวะอุปทานน้ำมันที่ล้นตลาด โดยบริษัทเหล่านี้ได้จองการเช่าเรือบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่ไว้ถึง 12 เดือนข้างหน้า
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากอุปสงค์ในภูมิภาคที่เบาบาง เนื่องจากประเทศอินโดนีเซียได้ลดการนำเข้าน้ำมันเบนซินลง 1.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์นี้ตามอุปสงค์ในประเทศที่ลดลง
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องมาจากอุปสงค์ที่มีจำกัดในภูมิภาค นอกจากนี้สต็อกน้ำมันดีเซลของประเทศญี่ปุ่นได้ปรับเพิ่มขึ้น 0.7% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกันที่สต็อกน้ำมันดีเซลของญี่ปุ่นเพิ่มสูงขึ้น
ทิศทางราคาน้ำมันดิบ
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์หน้าจะเคลื่อนไหวที่กรอบ 47-52 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 50-55 เหรียญฯ
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
จับตาท่าทีของกลุ่มโอเปกและการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ต่อภาวะอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาดที่คอยกดดันราคาน้ำมันดิบให้อยู่ในระดับต่ำ
จับตาผลกระทบของราคาน้ำมันที่ลดต่ำลงต่อเศรษฐกิจโลก ที่ถึงแม้ราคาที่ลดลงจะเป็นผลดีกับเศรษฐกิจโลกโดยรวมก็ตาม แต่ผู้ส่งออกน้ำมันบางประเทศ เช่น รัสเซีย ไนจีเรีย และเวเนซุเอลา อาจต้องเผชิญกับสภาวะความไม่สมดุลทางการเงิน ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนปรับตัวลดลงอย่าง
มีนัยสำคัญ
ติดตามวิกฤตการณ์เงินรูเบิลของรัสเซียซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่ของโลก หลังทางการรัสเซียมีมาตรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและเรียกร้องให้ผู้ส่งออกรายใหญ่ขายเงินตราต่างประเทศเพิ่มขึ้นเพื่อหวังให้ค่าเงินรูเบิลฟื้นตัว อย่างไรก็ดี การใช้นโยบายนี้ทำให้ธนาคารที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 15 ของรัสเซียอย่าง Trust Bank ประสบปัญหาทางการเงิน ส่งผลต่อเนื่องให้ธนาคารกลางรัสเซียจำเป็นต้องนำเงินเข้าช่วยเหลือเพื่อป้องกันไม่ให้ธนาคารดังกล่าวล้มละลาย
