- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Thursday, 08 January 2015 22:19
- Hits: 2995
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น เป็นครั้งแรกในรอบสัปดาห์ หลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง
+ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวเพิ่มขึ้น เป็นครั้งแรกในรอบสัปดาห์ หลังราคาปรับตัวลดลงเกือบ 10% ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา โดยได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลง อย่างไรก็ดี ตลาดคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบยังคงมีแนวโน้มปรับลงอย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยพื้นฐานด้านอุปทานที่ยังคงล้นตลาด
+ สำนักงานข้อมูลสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง 3.1 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.9 ล้านบาร์เรล เนื่องจากปริมานการนำเข้าน้ำมันดิบปรับตัวลดลง 205,000 บาร์เรลต่อวัน เหลือเพียง 2.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2535 อย่างไรก็ดี ปริมาณน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซลคงคลังเพิ่มขึ้น 8.1 และ 11.2 ล้านบาร์เรล ตามลำดับ ซึ่งมากกว่าคาด และเป็นระดับที่เพิ่มมากสุดนับตั้งแต่เดือน ม.ค. 2533
+ อัตราการจ้างงานในภาคเอกชนของสหรัฐฯ ในเดือน ธ.ค. 57 เพิ่มขึ้น 241,000 ตำแหน่ง มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 226,000 ตำแหน่ง ท่ามกลางความกังวลว่าอัตราการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรมน้ำมันอาจส่งผลให้ตัวเลขการจ้างงานโดยรวมปรับตัวลดลง ซึ่งตัวเลขที่ปรับเพิ่มขึ้นนับเป็นสัญญาณที่ดีที่แสดงว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่ได้พึ่งพาอุตสาหกรรมน้ำมันเพียงอย่างเดียว
+/- Cowen and Company เปิดเผยผลสำรวจของบริษัทสำรวจและขุดเจาะน้ำมันของโลกจำนวน 476 บริษัท ว่าอาจลดเงินลงทุน สำหรับการผลิตน้ำมันลงประมาณ 17% หากราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยอยู่ที่ 70 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และอาจลดเงินลงทุนประมาณ 30-35% หากราคาเฉลี่ยแตะที่ระดับ 60 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล นอกจากนี้ เงินลงทุนในการขุดเจาะน้ำมันแนวดิ่งในชั้นหินดินดาน ของภูมิภาคอเมริกาเหนือคาดว่าจะลดลง 22% ในปีนี้
- อัตราเงินเฟ้อของกลุ่มประเทศยูโรโซนในเดือน ธ.ค. 57 ปรับตัวลดลง 0.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลง 0.1% เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลงอย่างมาก นอกจากนี้อัตราการว่างงานของกลุ่มประเทศยูโรโซนในเดือน พ.ย. ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 11.5%
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ อย่างไรก็ดี อุปสงค์ในภูมิภาคยังคงเบาบาง โดยเฉพาะจากผู้นำเข้ารายใหญ่ เช่น อินโดนีเซีย และ เวียดนาม ในขณะที่อุปทานยังคงล้นตลาด เนื่องจากผู้ค้าน้ำมันในภูมิภาคเอเชียขาดโอกาสส่งออกไปยังยุโรป และฝั่งเมดิเตอร์เรเนียนได้ เนื่องจาก
อุปสงค์ในภูมิภาคดังกล่าวอยู่ในระดับต่ำเช่นกัน
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากมีอุปสงค์เพิ่มขึ้นจากเวียดนาม อย่างไรก็ดี อุปทานในภูมิภาคยังคงเพียงพอ เนื่องจาก มีการส่งออกน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นจากอินเดียและไต้หวัน ซึ่งโรงกลั่นในไต้หวันกลับมาดำเนินการผลิตตามปกติ หลังปิดซ่อมบำรุงฉุกเฉินในช่วงปลายเดือน ธ.ค. 57
ทิศทางราคาน้ำมันดิบ
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 47-52 เหรียญฯ ต่อบาร์เรลส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 50-55 เหรียญฯ
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
จับตาท่าทีของกลุ่มโอเปกและการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ต่อภาวะอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาด
ที่คอยกดดันราคาน้ำมันดิบให้อยู่ในระดับต่ำ
จับตาผลกระทบของราคาน้ำมันที่ลดต่ำลงต่อเศรษฐกิจโลก ที่ถึงแม้ราคาที่ลดลงจะเป็นผลดีกับเศรษฐกิจโลกโดยรวมก็ตาม แต่ผู้ส่งออกน้ำมันบางประเทศ เช่น รัสเซีย ไนจีเรีย และเวเนซุเอลา อาจต้องเผชิญกับสภาวะความไม่สมดุลทางการเงิน ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
ติดตามวิกฤตการณ์เงินรูเบิลของรัสเซียซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่ของโลก หลังทางการรัสเซียมีมาตรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและเรียกร้องให้ผู้ส่งออกรายใหญ่ขายเงินตราต่างประเทศเพิ่มขึ้นเพื่อหวังให้ค่าเงินรูเบิลฟื้นตัว อย่างไรก็ดี การใช้นโยบายนี้ทำให้ธนาคารที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 15 ของรัสเซียอย่าง Trust Bank ประสบปัญหาทางการเงิน ส่งผลต่อเนื่องให้ธนาคารกลางรัสเซียจำเป็นต้องนำเงินเข้าช่วยเหลือเพื่อป้องกันไม่ให้ธนาคารดังกล่าวล้มละลาย