- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Thursday, 08 January 2015 00:30
- Hits: 2012
เร่งชงครม.ไฟเขียว เปิดเสรี'โซลาร์รูฟ' ใช้ไฟฟ้าแสงอาทิตย์
แนวหน้า : เร่งชงครม.ไฟเขียว เปิดเสรี“โซลาร์รูฟ” ใช้ไฟฟ้าแสงอาทิตย์
วันที่ 6 มกราคม ที่อาคารรัฐสภา นายทองฉัตร หงส์ลดารมภ์ ประธานกรรมาธิการ(กมธ.) ปฏิรูปพลังงาน แถลงกรณีสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ให้ความเห็นชอบข้อเสนอโครงการส่งเสริมการติดตั้งระบบแผงผลิตไฟฟ้าด้วยแสงอาทิตย์สำหรับบ้านและอาคาร หรือ โซลาร์รูฟ ได้อย่างเสรี ว่า ถือเป็นผลงานปฏิรูปชิ้นแรกของกมธ.ปฏิรูปพลังงาน ซึ่งโครงการนี้จะทำให้ประชาชนสามารถนำพลังงานแสงอาทิตย์ไปใช้ได้เองและลดภาระการหาพลังงานของประเทศ รวมทั้งสามารถนำพลังงานแสงอาทิตย์มาผลิตไฟฟ้าเพื่อหารายได้ให้ครัวเรือนได้อีกด้วย
ทั้งนี้ ลำดับต่อไป จะเสนอเรื่องให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ความเห็นชอบและมีมติให้คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ และคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ออกกฎระเบียบมารองรับ โดยให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ดำเนินการตามมติดังกล่าว เพื่อให้ประชาชนสามารถเป็นเจ้าของพลังงานที่ผลิตใช้ได้เองและนำพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตออกไปมาจำหน่ายเป็นรายได้แก่ครัวเรือน
นายทองฉัตร กล่าวอีกว่า คาดว่าอีก 5 ปีข้างหน้า จะมีการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ไม่ต่ำกว่า 1 แสนหลังคาเรือน คิดเป็นไฟฟ้าไม่ต่ำกว่า 5,000 เมกะวัตต์ โดยตั้งเป้าให้มีการติดตั้งที่โรงเรียน โรงงาน สถานที่ราชการ และบริษัทเอกชน รวมทั้งตั้งเป้าว่าภายใน 20 ปีข้างหน้า จะมีพลังงานแสงอาทิตย์จากการติดตั้งโซลาร์รูฟไม่ต่ำกว่า 10,000 เมกะวัตต์ และจะลดการสร้างโรงงานไฟฟ้าของรัฐบาล ทั้งยังลดภาวะโลกร้อนและภาวะเรือนกระจกได้
ขณะที่ นายอลงกรณ์ พลบุตร ประธานอนุกรรมาธิการปฏิรูปพลังงานทดแทนและหมุนเวียน กล่าวว่า ภายใน 10 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะเป็นประเทศสีเขียวในการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งประชาชนที่ต้องการติดตั้ง สามารถไปติดต่อที่การไฟฟ้าได้ทันที โดยจะมีช่างวิศวกรรมโยธาไปสำรวจลงนามรับรองการติดตั้งการใช้งาน ซึ่งแผงโซลาเซลล์จะมีอายุการใช้งานประมาณ 30 ปี ไม่ส่งผลกระทบต่อภาวะโลกร้อน เพราะสามารถนำกลับมารีไซเคิลได้
อีก 5 ปีตั้งโซลาร์รูฟได้ 1 แสนหลัง
บ้านเมือง : นายทองฉัตร หงส์ลดารมภ์ ประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูปพลังงาน สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวภายหลังสภาปฏิรูปแห่งชาติเห็นชอบรายงานพิจารณาศึกษาโครงการส่งเสริมการติดตั้งโซลาร์รูฟอย่างเสรี หรือระบบผลิตไฟฟ้าด้วยแสงอาทิตย์สำหรับบ้านและอาคาร ว่า ถือเป็นผลงานปฏิรูปชิ้นแรกของคณะกรรมาธิการปฏิรูปพลังงาน โดยโครงการนี้จะทำให้ประชาชนสามารถนำพลังงานแสงอาทิตย์ไปใช้ได้เอง และลดภาระการหาพลังงาน รวมทั้งสามารถนำพลังงานแสงอาทิตย์ไปหารายได้ให้ครัวเรือนได้ โดยเตรียมเสนอเรื่องให้คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ รวมทั้งให้คณะรัฐมนตรีมีมติให้คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ และให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ออกกฎระเบียบให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการไฟฟ้านครหลวง ดำเนินการตามมติของคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ประชาชนสามารถเป็นเจ้าของพลังงานผลิตใช้เองและนำพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตออกไปจำหน่ายเป็นรายได้แก่ครัวเรือน
ทั้งนี้ คาดว่า ในอีก 5 ปีข้างหน้า จะมีการ ติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ไม่ต่ำกว่า 1 แสนหลังคาเรือน คิดเป็นค่าไฟฟ้าไม่ต่ำ 5,000 เมกะวัตต์ โดยตั้งเป้าการติดตั้งที่ โรงเรียน โรงงาน สถานที่ราชการ และสำนักงานต่างๆ และใน 20 ปีข้างหน้า จะมีพลังงานแสงอาทิตย์จากการติดตั้งโซลาร์รูฟไม่ต่ำกว่า 10,000 เมกะวัตต์ และจะลดการสร้างโรงงานไฟฟ้าของรัฐบาล คิดเป็นมูลค่า 1 ล้านล้านบาท ทั้งยังลดภาวะโลกร้อนและภาวะเรือนกระจก ซึ่งประเทศไทยจะเป็นผู้นำการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์และประเทศสีเขียวในภูมิภาคอาเซียน