- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Thursday, 08 January 2015 00:28
- Hits: 2346
ราคาน้ำมันดิบร่วงต่อเนื่องกว่า 10% ในรอบสัปดาห์ เหตุตลาดยังคงกังวลอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาด
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวลดลงกว่า 10% ในรอบสัปดาห์ แตะระดับต่ำสุดตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ผลิ ปี 2552 ตลาดมองราคาน้ำมันดิบยังคงมีแนวโน้มปรับลงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายคาดราคาน้ำมันมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อีกครั้งตลอดเวลา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความกังวลของนักลงทุนในตลาดเป็นสำคัญ
- สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานของสหรัฐฯ (API) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง ณ จุดส่งมอบคุชชิ่งโอกลาโฮมาปรับเพิ่มขึ้น 482,000บาร์เรล ขณะที่ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังและน้ำมันดีเซลคงคลังก็ปรับเพิ่มขึ้น 6.9 และ 9.1 ล้านบาร์เรล ตามลำดับ ซึ่งถือว่ามากกว่าที่ตลาดคาดไว้ อย่างไรก็ตาม การนำเข้าน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงราว 691,000 บาร์เรลต่อวัน เหลือเพียง 6.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงกว่า 3.96 ล้านบาร์เรล
- ตลาดยังคงกังวลว่ากับภาวะอุปทานล้นตลาดจากการที่ผู้ผลิตทั้งฝั่งโอเปกและนอกโอเปกยังไม่ลดกำลังการผลิตลง ขณะที่สมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลลาห์ บิน อับดุลลาซิซ ของซาอุดิอาระเบีย ออกมายืนยังเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่าซาอุดิอาระเบียจะไม่ลดกำลังการผลิตแม้ว่าราคาน้ำมันดิบจะปรับตัวลดต่ำลงก็ตาม นอกจากนี้ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของซาอุดิอาระเบียกล่าวว่า ประเทศยังสามารถรับมือกับราคาน้ำมันดิบที่อยู่ในระดับต่ำได้ ทั้งกล่าวว่าประเทศจะสามารถจัดการงบประมาณการคลังสำหรับปี 2558 ได้
-/+ ยอดสั่งซื้อสินค้าโรงงานสหรัฐฯ เดือน พ.ย. 57 ที่ปรับลดลงมาอยู่ที่ -0.7% จากเดือนก่อนหน้าที่ -0.6% ประกอบยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ย. 57 ที่ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ -0.9% จาก -0.7% ในเดือนก่อนหน้าเช่นกัน ส่งผลให้ตลาดกังวลกับสภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ นอกจากนี้ดัชนีภาคการบริการสหรัฐฯ เดือน ธ.ค. 57 ที่ปรับลดลงมาแตะระดับ 56.2 จาก 59.3 ในเดือนก่อนหน้า ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ สาเหตุเนื่องจากอุปสงค์ในภูมิภาคที่เบาบาง โดยเฉพาะจากผู้เล่นหลักอย่างอินโดนีเซีย ในขณะที่อุปทานจากยุโรป และตะวันออกกลางมีแนวโน้มที่จะส่งเข้ามาขายในภูมิภาคเอเชียมากขึ้น
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปสงค์ในภูมิภาคที่ยังคงเบาบาง แม้ว่าอุปทานจากจีนมีแนวโน้มปรับน้อยลงก็ตาม
ทิศทางราคาน้ำมันดิบ
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 47-52 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 50-55 เหรียญฯ
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
จับตาท่าทีของกลุ่มโอเปกและการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ต่อภาวะอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาดที่คอยกดดันราคาน้ำมันดิบให้อยู่ในระดับต่ำ
จับตาผลกระทบของราคาน้ำมันที่ลดต่ำลงต่อเศรษฐกิจโลก ที่ถึงแม้ราคาที่ลดลงจะเป็นผลดีกับเศรษฐกิจโลกโดยรวมก็ตาม แต่ผู้ส่งออกน้ำมันบางประเทศ เช่น รัสเซีย ไนจีเรีย และเวเนซุเอลา อาจต้องเผชิญกับสภาวะความไม่สมดุลทางการเงิน ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
ติดตามวิกฤตการณ์เงินรูเบิลของรัสเซียซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่ของโลก หลังทางการรัสเซียมีมาตรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและเรียกร้องให้ผู้ส่งออกรายใหญ่ขายเงินตราต่างประเทศเพิ่มขึ้นเพื่อหวังให้ค่าเงินรูเบิลฟื้นตัว อย่างไรก็ดี การใช้นโยบายนี้ทำให้ธนาคารที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 15 ของรัสเซียอย่าง Trust Bank ประสบปัญหาทางการเงิน ส่งผลต่อเนื่องให้ธนาคารกลางรัสเซียจำเป็นต้องนำเงินเข้าช่วยเหลือเพื่อป้องกันไม่ให้ธนาคารดังกล่าวล้มละลาย