- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Thursday, 25 December 2014 07:31
- Hits: 3510
กฟผ.ส่งสัญญาณค่าไฟลดรับต้นปีใหม่ น้ำมันจ่อวูบแตะ 40 เหรียญ
แนวหน้า : ผู้บริหาร ปตท. ฟันธน้ำมัน “ขาลง” มีสิทธิ์แตะ 40 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ชี้ผลดีฉุดราคาก๊าซธรรมชาติลดลง ส่งผลค่าไฟฟ้างวด “ม.ค.-เม.ย.” ลดตาม ด้าน “ปูนใหญ่” ชี้ผลดีต่อการลงทุน “เมกะโปรเจกท์” ดันยอดใช้ปูนซีเมนต์ในปีหน้าเติบโตร้อยละ 6 จากปีนี้ที่ประเมินว่าจะติดลบร้อยละ 1
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนวโน้มราคาน้ำมันยังอยู่ในทิศทางขาลง โดยหากเปรียบเทียบกับช่วงปี 2551 ที่ราคาน้ำมันในช่วงนั้นต่ำสุดประมาณ 37 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จากที่สูงสุดประมาณ 147 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ดังนั้น รอบนี้คาดว่าราคาน้ำมันจะลดต่ำสุดในเดือนก.พ.2558 อยู่ที่ประมาณ 40 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หลังจากนั้นราคาน้ำมันจะค่อยขยับขึ้น เพราะคาดว่ากลุ่มโอเปกและกลุ่มผู้ค้าอื่นๆ จะต้องหาทางแทรกแซงราคาเพื่อลดปัญหาขาดทุน เช่น การลดกำลังการผลิต เป็นต้น
ส่วนกรณีที่ราคาน้ำมันปรับลดลงมา และการที่ภาคเอกชนมีการสต๊อกน้ำมันเพิ่มตามกฎหมายจากร้อยละ 5 เป็นร้อยละ 6 ก็ทำให้ผู้ค้าน้ำมันต้องแบกภาระขาดทุน หรือ stock loss เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ผลดีของราคาน้ำมันที่ปรับลดลงทำให้การบริโภคเพิ่มขึ้น ส่งผลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ
ด้านนายสุนชัย คำนูญเศรษฐ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. กล่าวว่า ค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ หรือ เอฟที งวดใหม่เดือนม.ค.-เม.ย.2558 จะปรับลดลงอย่างแน่นอน แต่จะเป็นเท่าไร รอคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. เป็นผู้ประกาศ เหตุผลหลักเนื่องจากการใช้ไฟฟ้าต่ำกว่าคาดการณ์ ยังไม่ได้เกิดจากต้นทุนราคาก๊าซธรรมชาติ เพราะต้นทุนก๊าซนั้นจะได้รับผลพวงจากราคาน้ำมันย้อนหลัง 3-6 เดือน อย่างไรก็ตาม การที่ค่าไฟฟ้าปรับลดลงเป็นข่าวดีปีใหม่สำหรับผู้บริโภค
ด้านนายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี คาดว่า การที่ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจและประกอบกับภาครัฐเร่งโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน (เมกะโปรเจกท์) และเอกชนได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนไปแล้วประมาณ 5 แสนล้านบาท คาดว่า การก่อสร้างในปีหน้า จะมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป จึงคาดว่า การใช้ปูนซีเมนต์ในปีหน้า จะเติบโตร้อยละ 6 จากปีนี้ที่ประเมินว่าจะติดลบร้อยละ 1 จากที่ปกติมียอดการใช้ปูนประมาณ 40 ล้านตันต่อปี และเอสซีจีมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณร้อยละ 40
ส่วนราคาปูนจะปรับลดลงตามต้นทุนน้ำมันหรือไม่ ขึ้นอยู่กับกลไกการตลาด โดยที่ผ่านมาราคาปูนก็ได้มีการปรับลดลงมาในระดับหนึ่งแล้ว อย่างไรก็ตาม แม้จะได้ผลดีจากราคาดีเซลที่ลดลงแต่ก็ได้รับผลกระทบจากราคาแอลพีจีที่ปรับตัวสูงขึ้น
นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย กล่าวว่า จากภาวะเศรษฐกิจในปี 2557 ที่ชะลอตัวโดยคาดว่าทั้งปีจะมีอัตราการขยายตัวเพียง 0.6% ส่งผลให้แรงส่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจปี 2558 ช้าลง โดยทั้งปี 2558 คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวลดลงเหลือ 3.5% จากคาดการณ์เดิมอยู่ที่ 4%
ทั้งนี้ ความไม่แน่นอนจากสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่มีความผันผวนสะท้อนความจริงของเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวได้ไม่ดีนัก จึงมีความเป็นไปได้ที่สหรัฐจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายไปเป็นในช่วงปลายปี 2558 ซึ่งการส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐย่อมส่งผลต่อตลาดเงินทั่วโลกเพราะนักลงทุนจะเกิดความเชื่อมั่นในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐจึงดึงเงินกลับไปลงทุนในประเทศ และส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงแต่จะเป็นไปในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป
นายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากการปรับลดของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกซึ่งจะส่งผลต่อราคาก๊าซธรรมชาติใน 6 เดือนถึง 1 ปี ต่อมา ทำให้คาดการณ์ได้ว่าต้นปี 2558 ราคาก๊าซธรรมชาติมีแนวโน้มจะปรับตัวลดลง ส่งผลให้ต้นทุนราคาผลิตกระแสไฟฟ้า (Ft) ที่มีก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิต สามารถปรับลดลงได้เช่นกัน ทำให้ค่าไฟฟ้าจะถูกลงกว่าเดิม ซึ่งจะเป็นข่าวดีสำหรับผู้บริโภคโดยตรง
