- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Wednesday, 24 December 2014 21:08
- Hits: 3213
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น จากตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ดีเกินคาด
+ ราคาน้ำมันดิบทั้งเบรนท์และเวสท์เท็กซัสปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วัน หลังจากตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ได้คาดการณ์เอาไว้ ส่งผลทำให้มีการคาดการณ์ว่าความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐฯ จะปรับเพิ่มขึ้น เช่นกัน อย่างไรก็ตามตลาดยังมีความกังวลเกี่ยวกับสภาวะที่อุปทานน้ำมันล้นตลาด และการประกาศจากโอเปกว่า จะไม่ลดกำลังการผลิตลงไม่ว่าราคาจะตกลงไปที่ระดับใดก็ตาม
+ กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ได้ปรับตัวเลขอัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) จากเติบโตร้อยละ 3.9 เป็น ร้อยละ 5.0 ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมานี้ ซึ่งเป็นการเติบโตที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 2003 หรือในรอบ 11 ปี ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับตัวที่ดีขึ้นอย่างแข็งแกร่งของการจ้างงานที่เพิ่มสูงขึ้น และส่งผลทำให้การใช้จ่ายทั้งภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะการใช้จ่ายในภาคครัวเรือนที่มีสัดส่วนถึง ร้อยละ 70 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ
+ นอกจากนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคของสหรัฐฯ ที่ประกาศโดย รอยเตอร์และมหาวิทยาลัยมิชิแกน ได้ปรับตัวดีขึ้นจากระดับ 88.8 ในเดือนพฤศจิกายน มาอยู่ที่ระดับ 93.6 ในเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นระดับความเชื่อมั่นที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ เดือนมกราคม 2550 การปรับตัวที่สูงขึ้นนั้นเป็นผลมาจาก มุมมองบวกของผู้บริโภคในสหรัฐฯ อยู่ในระดับสูงสุดในรอบทศวรรษจากการที่ตำแหน่งงานและค่าจ้างได้เพิ่มสูงขึ้นและครอบคลุมในทุกกลุ่มประชากร
- อย่างไรก็ตาม ยอดการสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้ตัวปรับลดลงจาก ขยายตัวร้อยละ 0.4 ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เป็น หดตัวร้อยละ 0.7% ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่า ภาคธุรกิจได้ปรับลดการลงทุนลงในช่วงปลายปี ซึ่งการหดตัวลงของยอดการสั่งซื้อสินค้าคงทนนั้น มีสาเหตุหลักมาจาก การเติบโตของยอดการสั่งซื้อเครื่องบินขับไล่ที่ลดน้อยลง โดยลดลงจาก ร้อยละ 43.5 ในเดือนตุลาคม ลงมาอยู่ที่ระดับร้อยละ 7.8 ในเดือนพฤศจิกายน
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องมาจากยังคงได้รับแรงสนับสนุนจากการลดราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินในประเทศฟิลิปปินส์และเวียดนาม ซึ่งทำให้อุปสงค์เพิ่มมากขึ้นในภูมิภาคนี้
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปทานในเอเชียที่ลดลงจากการปิดซ่อมบำรุงของโรงกลั่นน้ำมันในไต้หวันและการลดการส่งออกน้ำมันดีเซลจากจีนและประเทศในภูมิภาคเอเชียเหนือ นอกจากนี้ยังมีอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นมาจากประเทศเวียดนามที่เป็นตัวช่วยสนับสนุนราคาน้ำมันดีเซลในภูมิภาค
ทิศทางราคาน้ำมันดิบ
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 53-58 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 58-63 เหรียญฯ
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ท่าทีของสมาชิกต่างๆ ในกลุ่มโอเปก หลังประเทศที่มีต้นทุนการผลิตน้ำมันดิบสูง อย่าง
เวเนซูเอลาและแอลจีเลีย พยายามผลักดันการจัดประชุมอย่างเร่งด่วนขึ้นเพื่อร่วมกันหามาตรการที่จะพยุงราคาน้ำมันดิบไม่ให้ตกต่ำไปมากกว่านี้ ขณะที่ทางสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ย้ำจะไม่มีการประชุมพิเศษหากไม่มีความจำเป็น และจะไม่ปรับลดเพดานการผลิต แม้ราคาน้ำมันอาจดิ่งลงไปแตะระดับต่ำสุดที่ 40 เหรียญสหรัฐฯ /บาร์เรลก็ตาม
ติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจของรัสเซีย ผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่ของโลก หลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากราคาน้ำมันดิบทรุดตัวลง เนื่องจากเป็นประเทศที่พึ่งพารายได้จากการส่งออกน้ำมันดิบเป็นหลัก รวมถึงการอ่อนค่าลงของสกุลเงินรูเบิลที่มากสุดเป็นประวัติการณ์ และมาตรการคว่ำบาตรที่นานาชาติบังคับใช้ต่อ
ติดตามว่ายุทธศาสตร์ “อาเบะโนมิกส์” หรือนโยบายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจของนาย ซินโซ อาเบะว่าจะช่วยพยุงเศรษฐกิจของญี่ปุ่นซึ่งกำลังกลับสู่ภาวะถดถอยให้กลับมาดีขึ้นได้หรือไม่ หลังนายอาเบะ รักษาเก้าอี้เดิมของตนไว้ได้จากการเลือกตั้งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา