- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Wednesday, 24 December 2014 01:18
- Hits: 2318
ไทยออยล์ คาด ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 55-60 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 58-63 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ (22 – 26 ธ.ค. 57)
ราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้คาดว่าจะยังคงผันผวนถึงปรับลดลงเล็กน้อย จากผลกระทบที่โอเปกตัดสินใจคงกำลังการผลิตในการประชุมเมื่อเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา ท่ามกลางอุปทานน้ำมันดิบที่ยังล้นตลาด และติดตามสถานการณ์สำคัญที่ส่งผลกระทบกับราคาน้ำมัน อาทิ ความเป็นไปได้ของการจัดประชุมแบบเร่งด่วนของกลุ่มโอเปก เพื่อหารือถึงมาตรการพยุงราคาน้ำมันดิบที่อยู่ในระดับต่ำ ทิศทางการดำเนินนโยบายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าสู่ภาวะถดถอยของญี่ปุ่น หลังนาย ซินโซ อาเบะ ยังรักษาเก้าอี้เดิมไว้ได้ และสถานการณ์เศรษฐกิจของรัสเซีย ผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่ของโลก หลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากราคาน้ำมันดิบที่ทรุดตัวลง อย่างไรก็ดี อุปสงค์หน้าหนาวอาจยังคงเป็นปัจจัยที่มีส่วนหนุนราคาน้ำมันในช่วงนี้
ปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้:
ติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งภายในกลุ่มโอเปก หลังประเทศที่มีต้นทุนการผลิตน้ำมันดิบสูง อย่างเวเนซูเอลาและแอลจีเรีย พยายามผลักดันให้มีการจัดประชุมอย่างเร่งด่วนขึ้น เพื่อร่วมกันหามาตรการที่จะพยุงราคาน้ำมันดิบไม่ให้ตกต่ำมากกว่านี้ อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ออกมาประกาศว่าโอเปกจะไม่จัดการประชุมพิเศษหากไม่มีความจำเป็น และจะไม่ปรับลดเพดานการผลิต แม้ว่าราคาน้ำมันอาจจะดิ่งลงไปแตะระดับต่ำสุดที่ 40 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรลก็ตาม โดยเน้นย้ำว่าราคาน้ำมันดิบควรเป็นไปตามกลไกตลาดเท่านั้น
ติดตามว่ายุทธศาสตร์ “อาเบะโนมิกส์” หรือนโยบายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ ได้แก่ มาตรการผ่อนคลายทางการเงิน มาตรการกระตุ้นทางการคลัง และ การปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ ของนาย ซินโซ อาเบะ ที่สามารถรักษาเก้าอี้เดิมของตนไว้ได้จากการเลือกตั้งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จะช่วยพยุงเศรษฐกิจของญี่ปุ่นที่กำลังเข้าสู่ภาวะถดถอยให้กลับมาดีขึ้นได้หรือไม่
ติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจของรัสเซีย ผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่ของโลก หลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากราคาน้ำมันดิบที่ทรุดตัวลง เนื่องจากเป็นประเทศที่พึ่งพารายได้จากการส่งออกน้ำมันดิบเป็นหลัก รวมถึงการอ่อนค่าลงของสกุลเงินรูเบิลที่มากสุดเป็นประวัติการณ์ โดยรัสเซียเองยังประสบกับมาตรการคว่ำบาตรที่นานาชาติบังคับใช้ต่อตน และล่าสุดธนาคารกลางของรัสเซียปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างฉุกเฉิน จากระดับ 10.5% ไปอยู่ที่ 17% และกำลังวางแผนการใช้สำรองเงินตราต่างประเทศเพิ่มเติมกว่า 7 พันล้านดอลลาร์เพื่อแทรกแซงค่าเงิน อย่างไรก็ตาม มีแนวโน้มว่ามาตรการเหล่านี้ยังไม่สามารถหยุดยั้งการไหลออกของเงิน (Capital outflows) และป้องกันการอ่อนค่าของเงินรูเบิลได้ตามที่คาดไว้
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน จีดีพี ไตรมาส 3 และดัชนีความอ่อนไหวของผู้บริโภคสหรัฐฯ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของยูโรโซน และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจของจีน (CB Leading Economic Index)
สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (15 – 19 ธ.ค. 57)
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับลดลงต่อเนื่อง1.29 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปิดที่ 56.52 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับลดลง 0.47 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปิดที่ 61.38 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 57 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี โดยได้รับแรงกดดันหลักจากอุปทานน้ำมันดิบที่ยังคงล้นตลาด และการประกาศคงกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปก นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันเพิ่มเติมจากการที่สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ประกาศลดคาดการณ์การเติบโตอุปสงค์น้ำมันดิบลง และสถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) ได้ออกมารายงานตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ดี การที่ธนาคารกลางของสหรัฐฯ หรือ เฟด เปิดเผยว่าเฟดจะยังคงนโยบายการคลังเช่นเดิม โดยจะยังไม่ปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นนั้น ก็ถือเป็นปัจจัยที่ช่วยพยุงราคาน้ำมันดิบได้บ้าง