WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ราคาน้ำมันดิบดีดกลับหลังนักลงทุนแห่ทำกำไร ตลาดคาดแนวรับสำคัญที่ 60 เหรียญสหรัฐฯ

  +ราคาน้ำมันดิบทั้งเบรนท์และเวสเท็กซัสดีดตัวกลับขึ้นมาอีกครั้งเมื่อวันศุกร์สุดสัปดาห์ หลังนักลงทุนพากันกลับเข้ามาซื้อขายทำกำไรในตลาดน้ำมันอีกครั้ง หลังราคาน้ำมันปรับลดลงไปแตะระดับต่ำสุดนับแต่ปี 2552 เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา  โดยการดีดกลับครั้งนี้ถือเป็นการดีดกลับที่แรงที่สุดในรอบเกือบ 2 ปี

  + นักลงทุนและนักวิเคราะห์หลายแห่งมองว่าระดับราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ราว 60 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ถือเป็นแนวรับที่สำคัญซึ่งสะท้อนมาจากการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ความผันผวนของราคาน้ำมันในช่วงนี้ถือว่ายังคงมีความไม่แน่นอนอยู่มาก  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของการลงทุน ขณะที่ภาพของปัจจัยพื้นฐานยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก

  - ราคาน้ำมันที่ระดับต่ำเกินไปอาจทำให้เกิดผลดีต่อการลงทุนการผลิตน้ำมันจากหินดินดาน (shale oil) ในบริเวณรัฐนอร์ท ดาโกต้า ของสหรัฐฯ  ทั้งนี้เนื่องจากกฎหมายสหรัฐฯ ระบุว่า หากราคาเฉลี่ยเดือนของน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับลดลงต่ำกว่าเกณฑ์เป็นเวลา 5 เดือนติดต่อกัน  ผู้ผลิตจะมีสิทธิได้รับเงินลดหย่อนภาษีมูลค่า 53,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็น 6.5% ของภาษีขุดเจาะน้ำมัน ซึ่งสำหรับปี 2558 ราคาเกณฑ์ถูกกำหนดไว้ที่ 55.08 เหรียญฯ ซึ่งหากราคาน้ำมันยังคงอยู่ในระดับต่ำเช่นปัจจุบันนี้ต่อเนื่อง ก็อาจมีความเป็นไปได้ที่ผู้ผลิตจะได้รับการลดหย่อนภาษีได้ช่วงกลางปีหน้าได้

  - ผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดน้ำมัน (major oil company) เริ่มมองหาทางควบรวมกิจการของบริษัทสำรวจและผลิตปิโตรเลียมขนาดเล็กๆ ที่อาจได้รับผลกระทบทางการเงินท่ามกลางราคาน้ำมันที่ผันผวนในระดับต่ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแอฟริกา เอเชีย รวมถึงสหรัฐฯ เพื่อหาทางรักษาตลาดลูกค้าของตนไว้ ซึ่งการควบรวมกิจการจะส่งผลให้การดำเนินการทั้งด้านการผลิตและสำรวจปิโตรเลียมของบริษัทเล็กๆ ดังกล่าว ยังคงดำเนินการต่อไปได้

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยในตลาดยังคงมีการนำเข้าของอินโดนีเซียให้เห็นอยู่บ้าง แม้จะไม่มากเท่าเดือนก่อนหน้าก็ตาม อย่างไรก็ดี อุปทานน้ำมันเบนซินในภูมิภาคยังคงอยู่ระดับสูงรวมถึงปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังที่สิคโปร์ที่ล่าสุดมีการปรับเพิ่มขึ้นด้วย

  ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปทานในภูมิภาคที่ยังคงอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ดี แนวโน้มการส่งออกของจีนที่คาดว่าลดลงหรืออาจไม่มีการส่งออกน้ำมันดีเซลในเดือน ม.ค.  เพราะเน้นขายในประเทศมากขึ้นหลังราคาน้ำมันในตลาดต่างประเทศตกต่ำ รวมถึงแรงซื้อที่มีให้เห็นจากอินโดนีเซียที่นำเข้าไปใช้ในธุรกิจเหมืองเพื่อทดแทนถ่านหินที่ในระยะนี้มีราคาสูง ส่งแรงหนุนต่อตลาดน้ำมันดีเซล

ทิศทางราคาน้ำมันดิบ

  ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 53-58 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 58-63 เหรียญฯ

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

  ท่าทีของสมาชิกต่างๆ ในกลุ่มโอเปก หลังประเทศที่มีต้นทุนการผลิตน้ำมันดิบสูง อย่างเวเนซูเอลาและแอลจีเลีย พยายามผลักดันการจัดประชุมอย่างเร่งด่วนขึ้นเพื่อร่วมกันหามาตรการที่จะพยุงราคาน้ำมันดิบไม่ให้ตกต่ำไปมากกว่านี้ ขณะที่ทางสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ย้ำจะไม่มีการประชุมพิเศษหากไม่มีความจำเป็น และจะไม่ปรับลดเพดานการผลิต แม้ราคาน้ำมันอาจดิ่งลงไปแตะระดับต่ำสุดที่ 40 ดอลลาร์/บาร์เรลก็ตาม

  ติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจของรัสเซีย ผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่ของโลก หลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากราคาน้ำมันดิบทรุดตัวลง เนื่องจากเป็นประเทศที่พึ่งพารายได้จากการส่งออกน้ำมันดิบเป็นหลัก รวมถึงการอ่อนค่าลงของสกุลเงินรูเบิลที่มากสุดเป็นประวัติการณ์ และมาตรการคว่ำบาตรที่นานาชาติบังคับใช้ต่อ

  ติดตามว่ายุทธศาสตร์ “อาเบะโนมิกส์” หรือนโยบายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจของนาย ซินโซ อาเบt จะช่วยพยุงเศรษฐกิจของญี่ปุ่นซึ่งกำลังกลับสู่ภาวะถดถอยให้กลับมาดีขึ้นได้หรือไม่ หลังายอาเบะ รักษาเก้าอี้เดิมของตนไว้ได้จากการเลือกตั้งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!