- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Friday, 30 May 2014 22:08
- Hits: 3733
ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ลดหนุน WTI ส่วนปัญหาการส่งออกน้ำมันดิบลิเบียและวิกฤตยูเครนหนุนราคาเบรนท์
+ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับเพิ่มขึ้น หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) ประกาศตัวเลขปริมาณน้ำมันเบนซินประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 23 พ.ค. 57 ปรับลดลง 1.8 ล้านบาร์เรลซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้เนื่องจากสหรัฐฯ เข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวทำให้มีการใช้น้ำมันเบนวินเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับตัวเลขอุปสงค์น้ำมันเบนซินเมื่อ 4 สัปดาห์ที่ผ่านมาที่เพิ่มขึ้น 9.1 ล้านบาร์เรลต่อวันซึ่งสูงกว่าปีก่อน 5.4% นอกจากนี้ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่จุดส่งมอบน้ำมันดิบคุชชิ่ง โอคลาโฮมาปรับลดลง 1.53 ล้านบาร์เรล เนื่องจากมีการระบายน้ำมันดิบไปยังโรงกลั่นฝั่งอ่าวเม็กซิโกเพิ่มขึ้น
+ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ได้รับแรงหนุนจากเหตุการณ์ความไม่สงบในยูเครน หลังกลุ่มผู้ก่อการร้ายใช้อาวุธยิงถล่มเฮลิคอปเตอร์ของทหารยูเครน เป็นเหตุให้นายทหารที่จะไปประจำการตามหน้าที่ต้องเสียชีวิตถึง 14 ราย นอกจากนี้จับตาการเจรจาระหว่างประเทศรัสเซีย, ยูเครนและกลุ่มยุโรปที่จะมีขึ้นในวันนี้ เพื่อหาทางออกในเรื่องการยุติส่งขายก๊าซให้แก่ยูเครน ซึ่งอาจส่งผลกระทบถึงอุปทานก๊าซของฝั่งยุโรปได้ หลังยูเครนเป็นหนี้บริษัทก๊าซพร้อมท์ของรัสเซีย ซึ่งหากไม่สามารถจ่ายหนี้ได้ตามกำหนด จะส่งผลให้หนี้เพิ่มขึ้นเป็น 5.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในวันที่ 7 มิ.ย. 57
+นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบถูกหนุนหลังท่าเรือ Zuetina ไม่สามารถดำเนินการส่งออกได้ หลังปริมาณน้ำมันดิบในถังเก็บน้ำมันดิบไม่เพียงพอ ประกอบกับแหล่งน้ำมันดิบที่เชื่อมต่อมาท่าเรือยังไม่กลับมาดำเนินการผลิต ส่งผลให้ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของลิเบียปรับลดลงอยู่ที่ 155,000 บาร์เรลต่อวัน
+ จำนวนผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง 27,000 รายอยู่ที่ 300,000 ราย ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะอยู่ที่ 318,000 ราย เป็นสัญญาณว่าตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ฟื้นตัวขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่สหรัฐฯ จะใช้สำหรับพิจารณาเกี่ยวกับนโยบายการเงินในอนาคต
- อย่างไรก็ดี ตัวเลขการประมาณการครั้งที่ 2 ของจีดีพีสหรัฐฯ ประจำไตรมาส 1/2557 คาดว่าหดตัว 1% เนื่องจากมีการปรับลดสต็อกสินค้าคงคลัง ประกอบกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นจัดในสหรัฐฯ ที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุน
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดกังวลว่าอุปทานในเอเชียยังไม่ปรับตัวดีขึ้นเนื่องจากโรงกลั่นน้ำมันในภูมิภาคอยู่ในช่วงปิดซ่อมบำรุง นอกจากนี้อุปสงค์จากตะวันออกกลางมีเพิ่มขึ้นเนื่องจากความต้องการสำรองน้ำมันเบนซินสำหรับเทศกาลถือศีลอด
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากสภาวะอุปทานที่มากขึ้นท่ามกลางความต้องการในภูมิภาคที่เบาบางลง โดยช่วงเวลาตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกรกฎาคมเป็นฤดูกาลห้ามทำประมงในฝั่งทะเลจีนใต้ส่งผลให้การบริโภคน้ำมันดีเซลในจีนลดลง ประกอบกับความต้องการในยุโรปก็ปรับลดลงด้วยเช่นกัน
ทิศทางราคาน้ำมันดิบ
ไทยออยล์ คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์หน้าจะเคลื่อนไหวที่กรอบ 98-105 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 105-112 เหรียญฯ
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
จับตาการต่อรองเรื่องการจ่ายหนี้ค่าก๊าซที่ยูเครนติดไว้กับบริษัทก๊าซพร้อมท์ของรัสเซีย ที่มีกำหนดจ่ายก่อนวันที่ 2 มิ.ย. นี้ ซึ่งจะเป็นประเด็นนำไปสู่การยุติการส่งขายก๊าซให้แก่ยูเครน และอาจส่งผลกระทบถึงอุปทานก๊าซของยุโรปในหลายๆ ประเทศ รวมถึงจับตาความรุนแรงจากการปะทะกันระหว่างทหารรัฐบาลยูเครนกับกลุ่มกบฎที่ฝักใฝ่รัสเซียที่ต่อเนื่องและรุนแรงมากขึ้น
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ คาดว่าจะมีแนวโน้มลดลงเนื่องจากโรงกลั่นเสร็จสิ้นการปิดซ่อมบำรุงมากขึ้นในเดือน มิ.ย. ประกอบกับโรงกลั่นหลายแห่งเตรียมเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อเตรียมเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวหน้าร้อนที่เริ่มขึ้นแล้วเมื่อวันที่ 26 พ.ค. ที่ผ่านมา
ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบลิเบียปรับลดลงอีกครั้งมาอยู่ที่ 160,000 บาร์เรลต่อวัน หลังท่าเรือ Hariga ที่เพิ่งกลับมาเปิดใช้เมื่อเดือน เม.ย. ถูกปิดโดยกลุ่มประท้วง นอกจากนี้ปัญหาการเมืองภายในประเทศที่ยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัด ส่งผลให้การเดินหน้าเจรจาเพื่อขอเปิดใช้ท่าเรือหลักของประเทศยังต้องหยุดชะงัก
การประชุมธนาคารกลางสหภาพยุโรปในวันที่ 5 มิ.ย. นี้ มีความเป็นไปได้สูงว่านายมาริโอ้ ดรากี้ ประธานธนาคารกลางยุโรปอาจตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดภาวะเงินฝืดในภูมิภาค หลังอัตราเงินเฟ้อยุโรปยังคงอยู่ในระดับต่ำที่ราว 0.7%
