- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Thursday, 18 December 2014 23:45
- Hits: 3104
ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น จากแรงซื้อของนักเก็งกำไรหลังการเทขายอย่างต่อเนื่อง
+ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์และเวสต์เท็กซัสปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 6% ในช่วงการซื้อระหว่างวันและปิดตลาดเพิ่มขึ้นเล็กน้อยหลังจากการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานับสัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนได้กลับเข้ามาทำสัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้าเพื่อทำกำไรหลังมีการเทขายอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา (Short recovering)
+ รวมไปถึงธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด เผยรายงานผลการประชุมบ่งชี้ว่าเฟด ยังคงนโยบายการคลังเหมือนเดิม โดยระบุว่าเมื่อพิจารณาจากภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
- อย่างไรก็ดี สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA)รายงานตัวเลขปริมาณนํ้ามันดิบคงคลังสหรัฐฯ ว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังปรับลดลง 847,000 บาร์เรล มาสู่ระดับ 379.9 ล้านบาร์เรล ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 2.4 ล้านบาร์เรล ขณะที่ปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง ณ จุดส่งมอบน้ำมันดิบคุชชิ่ง โอกลาโฮมา ยังปรับเพิ่มขึ้นกว่า 2.9 ล้านบาร์เรล สำหรับนํ้ามันเบนซินคงคลังปรับเพิ่มขึ้น 5.3 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตาม ปริมาณนํ้ามันดีเซลคงคลังปรับลดลง 2.7 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 0.34 ล้านบาร์เรล
- อัตราเงินเฟ้อของประเทศในกลุ่มยูโรโซนในเดือน พ.ย. ขยายตัวเพียงร้อยละ 0.3 ซึ่งปรับลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ ร้อยละ 0.4 หลังราคาพลังงานปรับลดลง ทำให้มองว่าขณะนี้อยู่ในภาวะที่อาจเผชิญกับภาวะเงินฝืด ซึ่งจะส่งผลให้การจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคปรับลดลง และสภาพเศรษฐกิจอ่อนแอลงมากขึ้น นอกจากนี้อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐก็มีการปรับตัวลดลงจากร้อยละ 1.7เหลือเพียงร้อยละ 1.32%ในเดือน พย. จากที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 1.9
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ ถึงแม้ว่าจะมีอุปสงค์ที่เบาบางในภูมิภาคเอเชียและตะวันออกกลางประกอบกับอุปทานที่ยังคงอยู่ในระดับสูง
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปสงค์ในภูมิภาคที่ยังคง
ซบเซา อย่างไรก็ดี ปริมาณอุปทานในตลาดที่ลดลง จากทางเอเชียที่โรงกลั่นในไต้หวันปิดซ่อมบำรุง ช่วยสนับสนุนให้ราคาตกลงไปไม่มากนัก
ทิศทางราคาน้ำมันดิบ
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 55-60 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 58-63 เหรียญฯ
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
จับตาการประชุมนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟดในวันที่ 16-17 ธ.ค. 57 นี้ ตลาดมีความกังวลว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี ซึ่งหากเฟดปรับเพิ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ย อาจจะส่งผลกดดันราคาน้ำมันดิบได้ เนื่องจากนักลงทุนจะเทขายสินทรัพย์เสี่ยงและหันไปฝากเงินมากขึ้น
การประชุมแบบเร่งด่วนของกลุ่มโอเปกว่าจะสามารถจัดขึ้นได้เมื่อไร หลังจากเวเนซุเอลาและแอลจีเรีย หารือว่าจะมีการจัดการประชุมแบบเร่งด่วนขึ้นก่อนที่จะมีการประชุมโอเปกครั้งถัดไปในเดือน มิ.ย. 58 เพื่อปรึกษาถึงมาตรการที่จะพยุงราคาน้ำมันดิบไม่ให้ลดลงต่ำไปมากกว่านี้
จับตาทิศทางการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่น ในการแก้ไขปัญหาเงินฝืดและสภาวะเศรษฐกิจหดตัว ภายหลังจากมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 14 ธ.ค. 57 ที่ผ่านมา ขณะที่เศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่นนั้นซบเซาและชะลอตัวอย่างต่อเนื่องติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 3 โดยจีดีพีในไตรมาสที่ 3 ติดลบ 0.5% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้