- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Wednesday, 10 December 2014 09:49
- Hits: 2568
ก.พลังงาน สั่งให้โซลาร์ฟาร์ม 153 โครงการ 875 เมกะวัตต์ ย้ายพื้นที่โครงการใหม่ ภายใน 31 มี.ค.58 ถ้าไม่ทันตัดสิทธิ์ พร้อมยุติรับซื้อไฟฟ้า
นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารมาตรการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน หรือคณะกรรมการอาร์อี เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ว่า ที่ประชุมเห็นชอบในหลักการในการตอบรับซื้อไฟฟ้าข้อเสนอโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน หรือโซลาร์ฟาร์ม สำหรับกลุ่มที่ยื่นในหลักการเสนอขอขายไฟ ก่อนปิดรับซื้อในเดือนมิ.ย. 2553 และยังไม่ได้รับการพิจารณาตอบรับซื้อจำนวนทั้งสิ้น 178 โครงการ ปริมาณเสนอขาย 1,013 เมกะวัตต์
โดยโครงการแบ่งเป็นสองส่วน คือ ส่วนที่ไม่มีปัญหาในเรื่องระบบสายส่งไฟฟ้าและผ่านข้อกำหนดทางเทคนิค การเชื่อมต่อโครงข่ายระบบไฟฟ้าของ กฟผ. รวมทั้งไม่ติดปัญหาที่ดินจำนวน 25 โครงการ กำลังการผลิต 138 เมกะวัตต์ ได้มอบหมายให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ดำเนินการลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) และกำกับการพัฒนาโครงการให้สามารถขายไฟฟ้าให้สามารถเข้าระบบภายในปี 2558
สำหรับ โครงการที่เหลืออีก 153 โครงการ ปริมาณเสนอขายรวม 875 เมกะวัตต์ ที่มีปัญหาระบบสายส่งไฟฟ้าไม่สามารถรองรับได้ หรือไม่ผ่านข้อกำหนดทางเทคนิคฯ หรือติดปัญหาที่ดิน นั้น ได้มอบหมายให้กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน หรือ พพ. ทำหนังสือแจ้งผลการพิจารณาผู้ยื่นข้อเสนอโครงการดังกล่าว สามารถย้ายที่ตั้งโครงการได้ โดยที่ พพ. จะได้ทำหน้าที่เป็น One-Stop-Service ในการรับเรื่องและประสานงานกับการไฟฟ้าและหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการ ตรวจสอบพื้นที่โครงการตามขั้นตอน แต่กระบวนการทั้งหมดจะต้องเสร็จสิ้นภายใน 31 มี.ค. 2558 ซึ่งหากโครงการใดไม่สามารถที่จะย้ายพื้นที่เพื่อให้มีระบบสายส่งรอบรับได้ตามระยะเวลาที่กำหนดก็จะถูกตัดสิทธิ์
ทั้งนี้ โครงการทั้ง 178 โครงการจะต้องจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบในเชิงพาณิชย์ หรือ (COD) ภายในวันที่31ธ.ค. 2558 หากไม่สามารถดำเนินการได้ตามกำหนดก็จะถูกตัดสิทธิ์ เช่นเดียวกัน
"มติของคณะกรรมการในครั้งนี้ สอดคล้องกับนโยบายนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ต้องการจะเคลียร์ปัญหาของโครงการโซลาร์ฟาร์ม ที่ยังค้างการพิจารณาอยู่ให้เสร็จสิ้นทั้งหมด แต่จะต้องมีการกำหนดขีดเส้นตายให้ชัดเจนว่าจะต้องให้จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเมื่อไหร่ เพื่อให้ผู้ประกอบการที่มีความตั้งใจจะลงทุนจริง ได้มีโอกาสที่ดำเนินโครงการได้หลังจากที่ยื่นเสนอขอขายไฟฟ้ามาตั้งแต่ปี 2553 ส่วนของผู้ที่ดำเนินการไม่ทันตามระยะเวลาที่กำหนด ก็จะถูกตัดสิทธิ์ สำหรับจะมีการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ล็อตใหม่เพิ่มอีกหรือไม่ จะมีการพิจารณาในระดับนโยบายหลังจากนี้ โดยรัฐบาลจะมุ่งส่งเสริมพลังงานไฟฟ้าจากขยะ จากไบโอแมสและไบโอแก๊ส ให้เต็มทีก่อน " นายอารีพงศ์ กล่าว
นายอารีพงศ์ กล่าวเพิ่มว่า ในที่ประชุมฯ ยังได้มีการรายงานความคืบหน้าและพิจารณาหลักเกณฑ์และแนวทางดำเนินการพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์การเกษตร รวม 800 เมกะวัตต์ และเบื้องต้นจะให้อยู่ในรูปแบบที่เปิดให้บริษัทจัดการพลังงาน (ESCO) เข้ามาร่วมพัฒนาโครงการนั้น โดยหลักเกณฑ์ซึ่งได้มีการพิจารณาเพื่อคัดเลือกโครงการ ที่ประชุมฯ ได้กำหนดกรอบไว้ อาทิ เช่น ให้มีการกำหนดพื้นที่และปริมาณการรับซื้อไฟฟ้า ณ จุดเชื่อมโยงในแต่ละเขตการให้บริการไฟฟ้า (Zoning) โดยพิจารณาจากความพร้อมในการรองรับโครงการของสายส่งและสายจำหน่ายไฟฟ้า ที่จะประกาศให้ทราบทั่วถึงก่อนรับข้อเสนอโครงการ
ส่วนโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานลมที่กำหนดเป้าหมายรับซื้อไว้จำนวน 1,800 เมกะวัตต์ นั้น ขณะนี้มีผู้ยื่นคำขอขายไฟฟ้าจำนวน 1,900 เมกะวัตต์แล้ว ที่ประชุมจึงมีมติให้หยุดการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานลม
ก่อนหน้านี้พล.อ.ประยุทธ์ ได้สั่งการในที่ประชุมครม.ให้นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานไปดำเนินการตรวจสอบ กรณีผู้ที่ได้รับใบอนุญาตหรือได้สิทธิ์โครงการโซลาร์ฟาร์ม แล้วไปเร่ขายใบอนุญาตสร้างผลกำไร โดยไม่ดำเนินการก่อสร้างเอง ซึ่งทางรัฐบาลได้รับการร้องเรียนเข้ามาว่าหลายรายมีพฤติกรรมในลักษณะดังกล่าวซึ่งถือเป็นการตัดสิทธิ์ ตัดโอกาสเอกชนรายอื่นไปด้วย
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย