- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Monday, 08 December 2014 23:54
- Hits: 2583
ไทยออยล์ คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 65-71 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 68-74 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ (8 – 12 ธ.ค. 57)
ราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้คาดว่าจะปรับลดลงต่อเนื่อง จากผลกระทบที่โอเปกตัดสินใจคงกำลังการผลิต ซึ่งอาจทำให้ประเทศผู้ส่งออกน้ำมันที่มีต้นทุนการผลิตน้ำมันที่สูงกว่า ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากราคาน้ำมันดิบที่อยู่ในระดับต่ำ นอกจากนี้ ตลาดยังจับตามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาเงินฝืดในยูโรโซนได้หรือไม่ รวมถึงภาพรวมเศรษฐกิจของจีน หลังธนาคารกลางจีนได้ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเมื่อเดือนที่แล้ว อย่างไรก็ดี ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดีและปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง จากอุปสงค์หน้าหนาว ยังเป็นปัจจัยที่มีส่วนหนุนราคาน้ำมันบ้าง
ปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้:
ผลกระทบจากการที่โอเปกตัดสินใจคงกำลังการผลิตไว้ อาจทำให้ประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน โดยเฉพาะรัสเซีย อิหร่าน เวเนซุเอลา และไนจีเรีย ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากราคาน้ำมันดิบที่อยู่ในระดับต่ำ ซ้ำเติมสภาวะเศรษฐกิจของบางประเทศที่มีความเปราะบางอยู่แล้ว อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันดิบที่อยู่ในระดับต่ำนี้ ทำให้เศรษฐกิจของประเทศพัฒนาแล้วซึ่งต่างก็นำเข้าน้ำมันดิบเติบโตเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโลก
ตลาดเฝ้าจับตาและยังคงมีความหวังว่ามาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจของอีซีบีจะมีประสิทธิภาพและสามารถแก้ไขปัญหาเงินฝืด รวมถึงปัญหาเศรษฐกิจต่างๆ ในยูโรโซนได้ ซึ่งจะช่วยทำให้อุปสงค์น้ำมันของภูมิภาคฯ กลับมาดีขึ้น
ติดตามภาพรวมเศรษฐกิจของจีนว่าจะปรับตัวดีขึ้นหรือไม่ หลังธนาคารกลางของจีนได้ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเมื่อเดือนที่แล้ว หากนโยบายดังกล่าวประสบผลสำเร็จก็จะส่งผลให้เศรษฐกิจจีนแข็งแกร่งขึ้น และอาจส่งแรงหนุนให้อุปสงค์น้ำมันจากจีนปรับตัวเพิ่มขึ้น
รายงานสถานการณ์น้ำมันประจำเดือน ธ.ค. ของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) โอเปก รวมถึงจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ในวันที่ 9 ธ.ค. 10 ธ.ค. และ 12 ธ.ค. ตามลำดับ ว่าจะมีการปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันดิบโลกในปีนี้และปีหน้าลงอีกหรือไม่
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีผู้ผลิต ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค จำนวนผู้ที่ขอรับสวัสดิการครั้งแรก และยอดค้าปลีกสหรัฐฯ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมยูโรโซน รวมถึงดัชนีผู้ผลิต-บริโภค ตัวเลขดุลการค้า ยอดค้าปลีก และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมจีน
สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (1 – 5 ธ.ค. 57)
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับลดลงต่อเนื่อง 0.31 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปิดที่ 65.84 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับลดลงราว 1.08 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปิดที่ 69.07 เหรียญสหรัฐฯ ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 66 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์ที่ผ่านมาค่อนข้างผันผวน โดยได้รับแรงกดดันจากการที่โอเปกตัดสินใจคงกำลังการผลิต ประกอบกับอิรักสามารถส่งออกน้ำมันดิบได้เพิ่มขึ้น หลังจากประสบความสำเร็จในการเจรจากับชาวเคิร์ดในการส่งออกน้ำมันในภาคเหนือของอิรัก สำหรับราคาน้ำมันดิบที่ลดต่ำลงนี้ ยังไม่ส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันดิบจากชั้นหินดินดาน (Shale oil) ของสหรัฐฯ ในทันที โดยอาจจะต้องรอผลกระทบดังกล่าวถึงครึ่งปีแรกของปี 58 นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงดัชนีภาคการผลิตของยุโรปและจีนที่ปรับตัวลดลง ยังส่งผลกดดันราคาน้ำมันดิบเพิ่มเติม อย่างไรก็ดี ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่ปรับลดลงสวนทางกับที่คาดการณ์ไว้ และตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ออกมาดีเกินคาด ยังเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาน้ำมันให้ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย