- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Tuesday, 02 December 2014 07:52
- Hits: 3715
ไทยออยล์คาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมัน 1-5 ธค.57 และสรุปสถานการณ์ฯ 24-28 พย.57
แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ (1 – 5 ธ.ค. 57)
ราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้คาดว่าจะปรับลดลงต่อเนื่อง จากท่าทีของตลาดต่อการตัดสินใจคงกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนั้นจับตาท่าทีของประเทศผู้ผลิตน้ำมันที่มีต้นทุนสูงว่าจะออกมาตอบรับกับการตัดสินใจของโอเปกในครั้งนี้อย่างไร อย่างไรก็ดีตลาดเฝ้าจับตาการประชุมธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในช่วงปลายสัปดาห์ว่าจะมีการหารือถึงวิธีที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจของกลุ่มยูโรโซนเพิ่มเติมหรือไม่ หลังข้อมูลเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมาไม่ค่อยดีนัก
ปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้:
ติดตามท่าทีของตลาดที่ตอบรับต่อการคงกำลังการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกที่ระดับเดิม
ที่ 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในการประชุมวันที่ 27 พ.ย ที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าการประชุมจะสิ้นสุดลงแล้ว แต่สมาชิกบางประเทศที่มีต้นทุนการผลิตน้ำมันดิบสูง อย่างเวเนซุเอลา อิหร่าน ยังแสดงความผิดหวังต่อมติการประชุม นอกจากนี้ยังมีผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกอย่างรัสเซียที่มีต้นทุนสูงเช่นกัน ซึ่งล้วนได้รับผลกระทบจากระดับราคาน้ำมันในปัจจุบัน
ตลาดจับตาการหาวิธีการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของยูโรโซน ในการประชุมครั้งต่อไปของอีซีบีในวันที่ 4 ธ.ค. นี้ ภายหลังข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาก่อนหน้าไม่ค่อยดีนัก โดยเฉพาะเงินเฟ้อที่อาจแตะระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 52 ส่งผลให้ประธานอีซีบี มีแถลงการณ์ถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการดูแลเงินเฟ้อให้ปรับตัวดีขึ้น อีกทั้งรองประธานอีซีบียังออกมาย้ำถึงความเป็นไปได้ที่จะเพิ่มมาตรการ QE ในไตรมาสหน้า
พร้อมกันนี้ติดตามภาพรวมของเศรษฐกิจจีนว่าจะกระเตื้องขึ้นหรือไม่ หลังธนาคารกลางของจีนปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 1 ปีลง 0.4% มาอยู่ที่ 5.6% และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลง 0.25% มาอยู่ที่ 2.75% ซึ่งหากนโยบายดังกล่าวประสบผลสำเร็จก็จะส่งผลให้เศรษฐกิจจีนแข็งแกร่งขึ้น และอาจส่งแรงหนุนให้
อุปสงค์น้ำมันจากจีนปรับตัวเพิ่มขึ้น
โรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐฯ ยังคงทยอยกลับมาจากการปิดซ่อมบำรุง รวมถึงอากาศที่หนาวเย็นของสหรัฐฯ ส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจหนุนราคาน้ำมันดิบให้ปรับตัวเพิ่มขึ้น
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีภาคการผลิตและตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ ดัชนีภาคการผลิตยูโรโซน รวมถึงดัชนีภาคการผลิตจีน
สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (24 – 28 พ.ย. 57)
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับลดลงราว 10.36 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปิดที่ 66.15 เหรียญสหรัฐฯต่อบาเรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับลดลงเช่นกัน 10.21 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ปิดที่ 70.15 เหรียญสหรัฐฯ ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 68 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์ที่ผ่านมาถือว่าเป็การทรุดลงของราคาน้ำมันอย่างมากที่สุดในรอบ 4 ปี หลังจากการประชุมโอเปกในวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมาได้ข้อสรุปว่าโอเปกจะคงกำลังการผลิตน้ำมันดิบไว้ที่ระดับเดิมที่ 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน นอกจากนี้ ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าคาด ประกอบกับเศรษฐกิจในทวีปยุโรปที่กำลังชะลอตัว ก็เป็นปัจจัยกดดันราคาน้ำมันดิบเพิ่มเติม อย่างไรก็ดี การประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนและความล้มเหลวในการเจรจายุติปัญหานิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านและกลุ่มชาติมหาอำนาจ เป็นปัจจัยสนับสนุนราคาน้ำมันให้ปรับขึ้นมาเล็กน้อยในช่วงต้นสัปดาห์