- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Tuesday, 04 November 2014 00:08
- Hits: 2989
ราคาน้ำมันดิบลด หลังค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็ง เหตุญี่ปุ่นประกาศขยายวงเงิน QE
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์และเวสต์เท็กซัสปรับตัวลงต่อ เนื่องจากญี่ปุ่นประกาศขยายวงเงินนโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เทียบกับเงินเยนปรับตัวแข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบเกือบ 7 ปี
-/+ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยค่าเงินสหรัฐฯ เทียบยูโรแตะระดับแข็งค่าสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี เนื่องจากการสิ้นสุดมาตรการ QE ของสหรัฐฯ ประกอบการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะออกนโยบายทางการเงินกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หลังตัวเลขเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศยูโรโซนที่อ่อนแอ อย่างไรก็ดีดัชนีราคาผู้โภคของกลุ่มยูโรโซนเดือน ต.ค. ขยายตัว 0.4% ส่งผลให้ความเป็นไปได้ที่อีซีบีจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในการประชุมในวันที่ 6 พ.ย. นี้ลดน้อยลง
- รอยเตอร์รายงานผลการสำรวจของปริมาณการผลิตน้ำมันดิบกลุ่มโอเปกในเดือน ต.ค. ลดลงเพียง 120,000 บาร์เรลต่อวัน จากประเทศแองโกลา และไนจีเรีย อย่างไรก็ตามปริมาณการผลิตที่ลดลงไม่ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากกลุ่มโอเปกยังคงผลิตน้ำมันดิบ 720,000 บาร์เรลต่อวันเกินกว่าเป้าหมายที่ 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยมีการคาดการณ์ว่ากลุ่มโอเปกจะมีมติในที่ประชุมช่วงสิ้นเดือน พ.ย. ให้รักษาเป้าหมายปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในช่วงต้นปี 2558 ที่ระดับนี้ต่อไป
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากปริมาณน้ำมันเบนซินและแนฟทาคงคลังลดลง 4.9% จากสัปดาห์ก่อนหน้า นอกจากนี้ยังมีอุปสงค์จากไต้หวันและจีน
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบเล็กน้อย เนื่องจากอุปสงค์จากจีนและอินโดนีเซีย โดยคาดการณ์ว่าจีนจะนำเข้าน้ำมันดีเซลเพิ่มเติม หลังราคานำเข้าถูกกว่าราคาขายในประเทศ ทั้งนี้ ปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์รายสัปดาห์ปรับเพิ่มขึ้น
ทิศทางราคาน้ำมันดิบ
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 80-85 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 83-88 เหรียญฯ
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
จับตาท่าทีของสมาชิกในกลุ่มโอเปกว่าจะมีมุมมองต่อการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงเพื่อพยุงราคาน้ำมันไว้อย่างไร หลังล่าสุดเลขาธิการกลุ่มเผยว่าตลาดไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนกต่อราคาน้ำมันที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ในระดับปัจจุบันและมีแนวโน้มยังคงการผลิตที่ระดับเดิม
ติดตามการประชุมอีซีบีในวันที่ 6 พ.ย. นี้ ซึ่งตลาดยังรอคอยความชัดเจนว่าอีซีบีจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหรือไม่ ซึ่งจะส่งแรงหนุนต่อราคาน้ำมัน หลังเศรษฐกิจองภูมิภาคมีแรงกดดันจากความกังวลต่อภาวะเงินฝืดที่มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น
โรงกลั่นน้ำมันของสหรัฐฯ จะทยอยกลับมาดำเนินการอีกครั้งหลังมีกำหนดเสร็จสิ้นการปิดซ่อมบำรุงในช่วงเดือน พ.ย. นี้ ซึ่งอาจส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น ทั้งยังอาจทำให้ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับลดลง