- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Tuesday, 09 June 2020 15:35
- Hits: 4628
สนธิรัตน์ นำ Blockchain บริหารซื้อขายน้ำมันปาล์มดิบ (CPO)มาผลิตไบโอดีเซล หรือ B100 ชาวสวนปาล์มไม่ถูกกดราคารับซื้อ
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงพลังงานได้ลงพื้นที่จังหวัดกระบี่โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ให้การต้อนรับ โดยได้ร่วมพบปะกับกลุ่มเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน และร่วมเสวนาถึงทิศทางใหม่ของการทำสวนปาล์มน้ำมันด้วยการนำระบบบล็อกเชน (Blockchain) มาใช้ดูแลการซื้อขายปาล์มน้ำมันทั้งระบบ เพื่อให้เกษตรกรได้รับราคาผลผลิตที่เป็นธรรม ราคาสอดคล้องกันทั้งระบบ Value Chain โดยรายได้ตกสู่เกษตรกรอย่างแท้จริง
Blockchain จะนำมาใช้บริหารซื้อขายน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) มาผลิตไบโอดีเซล หรือ B100 เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ที่สะท้อนราคาผลปาล์มอย่างเป็นธรรม จะมีการเก็บข้อมูลราคาของเกษตรกร ลานเท โรงหีบ โรงผลิต B100 และโรงกลั่นน้ำมัน ซึ่งทำให้โครสร้างราคาสอดคล้องกันทั้งระบบ
กระทรวงพลังงานคาดว่าระบบ Blockchain จะช่วยให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มไม่ถูกกดราคารับซื้อ สามารถพัฒนาผลผลิตที่มีคุณภาพยกระดับราคาผลปาล์มน้ำมัน และผลผลิตพืชพลังงาน สร้างเสถียรภาพราคาให้เกษตรกรมีรายได้ที่มั่นคง ช่วยปรับสมดุลน้ำมันปาล์มดิบในประเทศจากการส่งเสริมให้มีการใช้ไบโอดีเซลในภาคพลังงานมากขึ้น เพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้าเชื้อเพลิงฟอสซิลจากต่างประเทศ ช่วยป้องกันการลักลอบการนำเข้า และยังลดปัญหาสิ่งแวดล้อมด้านมลภาวะทางอากาศจากฝุ่น PM 2.5 ลดการปล่อยก๊าซเรือนจากในภาคคมนาคมขนส่งอีกด้วย
“ขณะนี้ กระทรวงพลังงานโดยกรมธุรกิจพลังงานอยู่ระหว่างทำโครงการนำร่องเพื่อทดสอบถึงความเป็นได้ในการนำระบบ Blockchain มาใช้ ซึ่งระบบนี้มีข้อดีที่ช่วยตัดวงจรพ่อค้าคนกลางออกไป เพราะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ปาล์มน้ำมันถูกกดราคาให้ตกต่ำเรื่อยมา แม้ว่าไทยจะได้ชื่อว่าเป็นผู้ปลูกปาล์มมากเป็นอันดับ 3 ของโลกก็ตาม ผมจึงอยากให้ข้อมูลและให้ความมั่นใจกับพี่น้องเกษตรกรชาวสวนปาล์มว่า นโยบายกระทรวงพลังงานจะเป็นเครื่องมือสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนอย่างแท้จริง เพื่อได้รับราคาผลผลิตที่เป็นธรรม ไม่ถูกกดราคาอีกต่อไปตามนโยบาย พลังงานเพื่อทุกคน พลังงานเพื่อชุมชน ยกระดับเศรษฐกิจฐานราก”รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานกล่าว
ก.พลังงาน คาดเริ่มโปรเจ็กใช้บล็อกเชนติดตามการซื้อขายปาล์ม เร็วๆนี้
กระทรวงพลังงานเตรียมเริ่มโครงการนำร่องใช้ระบบบล็อกเชน (Blockchain) ติดตามการซื้อขายปาล์มเร็วๆ นี้ หวังปฏิรูปการซื้อขายปาล์มทั้งประเทศที่ต้นน้ำและปลายน้ำ มีข้อมูลส่งถึงกันหมด ทวนสอบข้อมูลย้อนหลังได้ ที่สำคัญเกิดราคาที่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กเพจ ‘สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์’ ถึงความคืบหน้าที่กระทรวงพลังงานกำลังมีโครงการนำระบบบล็อกเชน (Blockchain) มาใช้กับการซื้อขายปาล์มว่า ระบบบล็อกเชนจะมาคุมการซื้อขายปาล์ม และทำให้เกษตกรได้รับประโยชน์เต็มๆ ที่สำคัญใช้งานง่ายผ่านแอปพลิเคชันในสมาร์ตโฟน
ที่มาของโครงการนี้ สืบเนื่องจากที่ผ่านมากระทรวงพลังงานมีการเปลี่ยนผ่านนโยบายให้ B10 เป็นน้ำมันเกรดพื้นฐาน ที่ต้องใช้น้ำมันปาล์มดิบ (CPO) มาเป็นส่วนผสมสำคัญ ทำให้เกิดความสมดุลในผลผลิตปาล์มกับความต้องการใช้ภายในประเทศ แต่สิ่งที่ยังคุมไม่ได้ก็คือ ยังไม่สามารถคุมราคาที่พี่น้องเกษตรกรจะได้รับราคาที่เป็นธรรม
ราคาปาล์มในไทยผันผวนมาตลอด ยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบันเมื่อเกิด COVID-19 ขึ้น ยิ่งทำให้คนใช้น้ำมันน้อยลง ประกอบกับจะเข้าสู่ฤดูกาลผลิตปาล์มอีก ก็ยิ่งทำให้ผลผลิตปาล์มล้นตลาด โดนกดราคา ราคาปาล์มก็ตกต่ำ ซึ่งระบบ Blockchain จะมาช่วยตรงนี้
บล็อกเชน คือ การคุมการซื้อขายปาล์ม กระทรวงพลังงานต้องการเครื่องมือคุมการค้าขายปาล์มน้ำมัน เพื่อช่วยให้เกษตรกรได้รับราคาที่เป็นธรรมบล็อกเชน เป็นระบบควบคุม ติดตาม และเก็บข้อมูลการซื้อขายปาล์มอย่างครบวงจร ทำให้มองเห็นเส้นทางการซื้อขายทุกลิตร ว่าให้ราคาที่เป็นธรรม และเม็ดเงินถึงพี่น้องเกษตรกรชาวสวนปาล์มหรือไม่
"พูดง่ายๆ ว่า ปลายทาง (โรงกลั่น) จะมองเห็นต้นทาง (เกษตรกร) แล้วเกิดความเชื่อมั่นและมั่นใจในการซื้อขายเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม"
บล็อกเชน จะทำให้เกิดผลที่เป็นรูปธรรม 3 ด้าน คือ 1) เกิดสมดุลการใช้ปาล์มกับผลผลิตครั้งแรกในประเทศไทย 2) ปลายทางของ CPO)ไปตอบสนองราคาต้นทางของพี่น้องเกษตรกร 3) ผลพลอยได้ ก็คือ ป้องกันการลักลอบนำเข้า เพราะคุมได้กระทั่งว่าซื้อจากสวนไหน ปริมาณเท่าไหร่ จะไม่มี CPO ส่วนเกินโผล่ขึ้นมาได้ เพราะจะถูกบล็อกเชนกำกับไว้ได้
เกษตกรได้รับประโยชน์เต็มๆ โดยระบบนี้ พี่น้องเกษตรชาวสวนปาล์มจะต้องได้ราคาขายผลผลิตปาล์มเป็นสัดส่วนเดียวกันกับ CPO ไม่โดนกดราคาอีกต่อไป เป้าหมายความสำเร็จของโครงการนี้อยู่ที่พี่น้องเกษตรชาวสวนปาล์มขายปาล์มได้ราคาและสามารถมีรายได้ที่มั่นคงจากปาล์มน้ำมัน
"เมื่อระบบครอบคลุมผู้ซื้อผู้ขายทั้งหมด ก็จะไม่มีการกดราคาเกิดขึ้น เพราะปลายทางจะรับซื้อเฉพาะผลผลิตปาล์มที่มาจากระบบบล็อกเชนเท่านั้น เกษตรกรจึงได้ผลประโยชน์อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยเสียที"
บล็อกเชน ใช้งานง่าย เนื่องจากจะมีสื่อกลาง ก็คือ แอปพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือที่จะให้ผู้ซื้อผู้ขายดาวน์โหลดไว้กับตัวเอง ใช้ง่ายไม่ยุ่งยาก เพราะผู้ซื้อจะเป็นคนกรอกข้อมูลทั้งหมด ส่วนเกษตรกรใช้แค่ชื่อสกุล และเลขบัตรประชาชน 13 หลักเท่านั้น
"ยืนยันครับว่า ชีวิตพี่น้องเกษตรกรเหมือนเดิมทุกอย่าง แต่ได้สตางค์เยอะขึ้น ขายปาล์มได้ราคาเป็นธรรมอย่างแท้จริง และจากทั้งหมดนี้ ผมเชื่อว่าการนำบล็อกเชนมาใช้ จึงเป็นการปฏิรูปการซื้อขายปาล์มทั้งประเทศ เป็นจุดเริ่มต้นการกินดีอยู่ดีของพี่น้องเกษตรกรจากมิติด้านพลังงาน"
หลังการเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวบนเฟซบุ๊กเพจ ได้มีผู้สนใจสอบถามว่า กระทรวงพลังงานจะเริ่มเอามาใช้เมื่อไหร่ ซึ่งทางนายสนธิรัตน์ ตอบว่าโครงการนำร่องจะเริ่มเร็วๆ นี้
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ