WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ราคาน้ำมันดิบร่วง จากแรงกดดันค่าเงินสหรัฐฯ แข็งค่าแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี

  ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส และเบรนท์ปรับตัวลดลง เนื่องจากค่าเงินสหรัฐฯ ที่ปรับตัวแข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี หลังการประกาศตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือน ก.ย. ปรับเพิ่มขึ้น  248,000 ตำแหน่ง  มากกว่าที่คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 215,000 ตำแหน่ง  ซึ่งสอดคล้องกับอัตราว่างงานสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 5.9% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี นอกจากนั้น ตัวเลขการจ้างงานประจำเดือน ส.ค. ยังถูกปรับทบทวนเป็นเพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่ง จากการรายงานเดิมที่ 142,000 ตำแหน่ง ทั้งนี้ การปรับตัวเพิ่มขึ้นของอัตราการจ้างงานนับเป็นสัญญาณเชิงบวกที่บ่งชี้ถึงการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งของตลาดแรงงานสหรัฐฯ

  - ขณะที่ ดัชนีภาคการบริการสหรัฐฯ ประจำเดือน ก.ย  ปรับตัวลดลงมาอยู่ ณ ระดับ 58.9 จุด  สูงกว่าที่คาดว่าจะยืนอยู่ที่ระดับ 58.7 จุด อย่างไรก็ดี การปรับตัวของดัชนีภาคบริการเหนือระดับ 50 จุด นับเป็นสัญญาณที่แสดงว่าธุรกิจภาคบริการสหรัฐฯ ยังคงสามารถขยายตัวได้ในระดับปกติ

  - นอกจากนั้น ราคาน้ำมันดิบยังถูกกดดันจากความกังวลด้านอุปทานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของผู้ผลิตในกลุ่มโอเปกในเดือน ก.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี มายืนอยู่ที่ 30.96 ล้านบาร์เรลต่อวัน  จากระดับ 30.15 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือน ส.ค. ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบในลิเบียและซาอุดิอาระเบีย

  - ส่วนปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มประเทศนอกโอเปก เช่น  รัสเซียปรับตัวเพิ่มขึ้นเร้อยละ 0.9 มาอยู่ที่ระดับ 10.61 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือน ก.ย.  ภายหลังจากการปิดซ่อมบำรุงแหล่งผลิตน้ำมันดิบสิ้นสุดลง

  ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากปริมาณอุปสงค์ที่คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งจากประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศผู้นำเข้าหลัก โดยมีการคาดการณ์ว่าอินโดนีเซียจะมีแผนการนำเข้าน้ำมันเบนซินประมาณ  11.5 ล้านบาร์เรล ในเดือน ต.ค. เพื่อรองรับปริมาณอุปทานที่จะขาดหายไปในช่วงปิดซ่อมบำรุงของโรงกลั่น

  ราคาน้ำมันดีเซล ปรับเพิ่มน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากความกังวลด้านอุปทานที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการเปิดดำเนินการของโรงกลั่นใหม่ในตะวันออกกลางและจีน  นอกจากนั้น ราคาน้ำมันดีเซลในภูมิภาคเอเซียยังถูกกดดันจากปริมาณอุปสงค์ที่อ่อนแรงลงในประเทศอินเดียและซาอุดิอาระเบีย

ทิศทางราคาน้ำมันดิบ

  ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 88-94 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 90-96 เหรียญฯ

 

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

  จับตาการประท้วงต่อต้านรัฐบาลจีนในฮ่องกง ซึ่งหลายฝ่ายกังวลว่าจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งจีน ซึ่งฮ่องกงเป็นเป็นช่องทางหนึ่งที่จีนใช้เป็นฐานเชื่อมต่อกับประเทศต่างๆ ทั้งทางด้านตลาดทุน ตลาดเงินและการขนส่ง เหตุการณ์นี้อาจทำให้เศรษฐกิจจีนที่ยังคงซบเซาอยู่เลวร้ายไปกว่าเดิม และส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันดิบย่ำแย่ด้วยเช่นกัน

  ยังคงต้องจับตามองถึงประสิทธิภาพของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวของอีซีบี ว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาเงินฝืด และจะทำให้อุปสงค์การใช้น้ำมันในภูมิภาคกลับมาได้หรือไม่

ติดตามว่ารายงานสถานการณ์น้ำมันประจำเดือน ต.ค. ของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ในวันที่ 7 ต.ค. และ OPEC ในวันที่ 10 ต.ค. ติดตามว่าจะมีการปรับลดคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันโลกในปีนี้ลงอีกหรือไม่ หลังหลายฝ่ายยังคงกังวลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขยายตัวที่ลดลงของผู้บริโภคน้ำมันอันดับสองของโลกอย่างจีน

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!