- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Monday, 29 September 2014 22:44
- Hits: 2503
ปตท.โอดรัฐตรึง NGV จ่อขาดทุน'แสนล้าน'
ไทยโพสต์ : วิภาวดีรังสิต * ปตท.แฉ รัฐสั่งตรึงราคาเอ็นจีวี 10 ปี ขาดทุนสะสม ใกล้ทะลุแสนล้าน โอดต้นทุนจริงกว่า 16 บาท ยิ่งขายมาก ยิ่งขาดทุน
แหล่งข่าวจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงภาระการขาดทุนสะสมของ ปตท.ในธุรกิจก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) ที่เกิดจากนโยบายการควบคุมราคาของภาครัฐว่า นับตั้งแต่ปี 2546 จนถึงเดือน มิ.ย.2557 เป็นเวลากว่า 10 ปี ต้องแบกรับภาระการขาดทุนสะ สมจากการจำหน่ายเอ็นจีวีในราคาที่ต่ำกว่าต้นทุน เป็นเงินประมาณ 95,283 ล้านบาท โดยปี 2556 มีภาระการขาดทุนต่อปีสูงที่สุดคือประมาณ 24,785 ล้านบาท เนื่องจากมีปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 8,542 ตันต่อวัน
"การควบคุมราคาเอ็นจีวี เอาไว้ที่ 10.50 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งต่ำกว่าต้นทุน ที่ทางสถาบัน วิจัยพลังงาน จุฬาลงกรณ์มหา วิทยาลัยทำการศึกษาเอาไว้ เมื่อปี 2556 คือ ต้นทุนเอ็นจีวีที่เป็นค่าเนื้อก๊าซ บวกด้วยค่าบริหารสถานีและค่าขนส่ง อยู่ที่ 16 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งหมายความว่าในราคาเอ็นจีวีที่จำหน่ายให้กับผู้บริโภคทุก 1 กิโลกรัม ปตท.ต้องแบกภาระขาดทุนเอาไว้ 5.50 บาทต่อกิโลกรัม อย่างไรก็ตาม ปตท.มีแนวโน้มการขาด ทุนสะสมจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามความต้องการใช้เอ็นจีวีที่เพิ่มขึ้น" แหล่งข่าวกล่าว
ปัจจุบันมีรถยนต์ที่ใช้เอ็นจีวีมีจำนวนทั้งสิ้น 451,618 คัน อยู่อันดับที่ 9 ของโลก โดย จำนวนรถยนต์ส่วนบุคคลมีสัด ส่วนสูงสุดประมาณ 60% รองลงมาคือแท็กซี่ 17% รถบรรทุกและหัวลาก 12% และรถตู้ 8% รถขนส่งมวลชนสาธารณะ 3% ส่วนปริมาณการใช้ก๊าซครึ่งปี 2557 รถบรรทุกและหัวลาก มีการใช้สูงสุดคือ 49% รถยนต์ส่วนบุคคล 24% แท็กซี่ 10% รถขนส่งสาธารณะ 9% รถตู้ 8% ทั้งนี้การที่รถบรรทุกใช้เอ็นจีวีมีสัดส่วนที่สูง เกือบครึ่งหนึ่งของปริมาณการใช้ทั้งหมดนั้น ทำให้เกิดปัญหาการประท้วงคัดค้านในช่วงที่ผ่านมา เมื่อรัฐมีนโยบายที่จะปรับขึ้นราคาเอ็นจีวี
นอกจากนี้ ปตท.ยังมีภาระขาดทุน ส่วนที่ต้องขายให้กับกลุ่มแท็กซี่ที่มีบัตรเครดิตพลังงาน ซึ่งได้รับส่วนลดราคาเอ็นจีวีอีกประมาณ 140 ล้านบาทต่อเดือน และหนี้เสียจากบัตรเครดิตพลังงานอีกประมาณ 20 ล้านบาท
สำหรับ ทิศทางการดำเนิน ธุรกิจเอ็นจีวีของ ปตท.ในอนา คตนั้น จะเน้นในเรื่องของการ บริการที่มีมาตรฐานความปลอด ภัย และการขยายสถานีตามแนวท่อที่กำลังขยายไปในภาคเหนือ รวมถึงปรับปรุงภาพลักษณ์ของสถานีบริการ โดยแยกกลุ่มรถบรรทุกกับส่วนรถบุคคล เพื่อแก้ไขปัญหาการต่อคิวเติมก๊าซนาน.