- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Friday, 26 September 2014 22:37
- Hits: 2541
ราคาน้ำมันดิบลดลง จากค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในรอบ 4 ปีและอุปทานจากลิเบียที่เพิ่มขึ้น
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ทรงตัว ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเวสเท็กซัสปรับตัวลดลง เนื่องจากปริมาณอุปทานที่เพิ่มมากขึ้นจากกำลังการผลิตของลิเบียที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาอยู่ที่ระดับ 925,000 บาร์เรลต่อวัน จากความสำเร็จของการดำเนินการได้อย่างเต็มที่ของท่าส่งออกน้ำมันดิบ Hariga ที่ถูกปิดโดยกลุ่มผู้ก่อการประท้วงเป็นเวลา 8 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ทางด้านตะวันออกของลิเบียและมีกำลังการส่งออกถึง 120,000 บาร์เรลต่อวัน ถึงแม้ว่าจะมีเหตุการณ์สู้รบระหว่างกลุ่มผู้แบ่งแยกดินแดนและฝ่ายรัฐบาลของลิเบียก็ตาม
- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบ 4 ปี เนื่องจากความแตกต่างจากผลตอบแทนของพันธบัตรของสหรัฐฯ และเยอรมันปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี ส่งผลกระทบให้ราคาของสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลดลง ซึ่งรวมถึงราคาน้ำมันดิบด้วยเช่นกัน
+ สหรัฐฯ, ซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทำการโจมตีโรงกลั่นน้ำมันที่ถูกควบคุมโดยกลุ่ม IS ทางอากาศที่เมือง Deir al Zur และ al-Hasakah ในซีเรียเมื่อวานนี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ขณะที่กระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ ออกมาแถลงการณ์ว่า ปฎิบัติการโจมตีครั้งนี้พุ่งเป้าไปที่โรงกลั่นน้ำมัน 12 แห่งในภาคตะวันออกของลิเบีย เพื่อตัดแหล่งรายได้ของกลุ่ม IS จากการขายน้ำมันอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งสามารถทำรายได้ให้กับกลุ่ม IS ได้ถึงวันละ 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
- ยอดขายสินค้าคงทนสหรัฐฯ เดือน ส.ค. ปรับลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้มาแตะที่ระดับ -18.2% เมื่อเทียบกับที่คาดการณ์ไว้ที่ -17.1% เนื่องจากยอดสั่งซื้อเครื่องบินพลเรือนลดลงเป็นอย่างมาก
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังที่สิงคโปร์ปรับตัวลดลงมาสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์ ขณะเดียวกันกับที่โรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐฯ ปิดซ่อมบำรุงต่อเนื่องกันเป็นเวลานานทำให้กดดันอุปทานลง
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังจากมีอุปสงค์จากทางด้านออสเตรเลียเพิ่มมากขึ้นในช่วงเทศกาลท่องเที่ยวของออสเตรเลีย ประกอบกับโรงกลั่นน้ำมันในออสเตรเลียจะปิดซ่อมบำรุงตามฤดูกาลในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ทิศทางราคาน้ำมันดิบ
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์หน้าจะเคลื่อนไหวที่กรอบ 90-96 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 96-102 เหรียญฯ
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
จีดีพีไตรมาส 2/57 ของสหรัฐฯ จะประกาศเป็นครั้งที่ 3 ในวันที่ 26 ก.ย.นี้ คาดการณ์ว่าจะมีการปรับเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อยอยู่ที่เติบโต 4.5% จากเติบโต 4.2% ในการประกาศครั้งก่อนหน้า ซึ่งตลาดคาดอาจส่งแรงหนุนต่อราคาน้ำมัน
จับตาการประชุมอีซีบีในวันที่ 2 ต.ค. นี้ ซึ่งตลาดคาดว่าอีซีบีจะออกมาตรการเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจยุโรปมากยิ่งขึ้น แม้การประชุมในเดือนกันยายนที่ผ่านมา อีซีบีจะประกาศปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงมาอยู่ที่ 0.05% รวมถึงลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากสู่ระดับ -0.20% และมีมาตรการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบผ่านการซื้อสินทรัพย์แล้วก็ตาม แต่ข้อมูลเศรษฐกิจยังคงออกมาอ่อนแออย่างต่อเนื่อง
ติดตามสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง หลังกลุ่ม IS ยังคงเดินหน้าบุกเข้าโจมตีซีเรียและอิรักอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรอาหรับ 5 ประเทศ (ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จอร์แดน บาห์เรน และกาตาร์) ได้ร่วมโจมตีทางอากาศในซีเรียเป็นครั้งแรกต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ตลาดมีความกังวลว่าสถานการณ์อาจบานปลายและส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันดิบได้