- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Monday, 18 March 2019 19:50
- Hits: 3215
ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังอุปทานตึงตัวจากการลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปก
บทวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันประจำสัปดาห์ โดย บมจ.ไทยออยล์: ฉบับวันที่ 18 มีนาคม 2562
ไทยออยล์ คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 56 - 61 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 65 - 70 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ (18 – 22 มี.ค. 62)
ราคาน้ำมันดิบ มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น หลังได้รับแรงหนุนจากอุปทานที่ปรับตัวลดลง โดยเฉพาะจากซาอุดิอาระเบียที่ปรับลดกำลังการผลิตและการส่งออกลง ประกอบกับกำลังการผลิตของสหรัฐฯ ที่เริ่มมีแนวโน้มขยายตัวช้าลง อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบอาจถูกกดดัน จากแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง โดยตลาดยังคงจับตาเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ยังคงยืดเยื้อ
ปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้:
อุปทานน้ำมันดิบคาดว่าจะปรับตัวลดลง หลังซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่ของโลกประกาศปรับลดปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบในเดือน เม.ย. 62 ให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 7 ล้านบาร์เรลต่อวัน และเตรียมที่จะควบคุมให้กำลังการผลิตน้ำมันดิบของประเทศอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยในเดือน ก.พ. 62 ซาอุดิอาระเบียได้ปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงมาอยู่ที่ระดับ 10.14 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งต่ำกว่าเดือน ม.ค. 62 อยู่ 0.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน นอกจากนี้ กลุ่มผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกยังคงให้ความร่วมมือในการปรับลดกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่องตามข้อตกลงที่จะปรับลดกำลังการผลิตลง 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน เป็นเวลา 6 เดือน นับตั้งแต่เดือน ม.ค. 62
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มขยายตัวช้าลง หลังตัวเลขกำลังการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ที่ 8 มี.ค. 62 ปรับตัวลดลง 100,000 บาร์เรลต่อวัน ไปอยู่ที่ระดับ 12.0 ล้านบาร์เรลต่อวัน ประกอบกับกำลังการกลั่นของโรงกลั่นในสหรัฐฯ ปรับสูงขึ้น 30,000 บาร์เรลต่อวัน เนื่องจากโรงกลั่นบางส่วนเริ่มกลับมาจากการปิดซ่อมบำรุง ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 8 มี.ค. 62 ปรับลดลง 3.9 ล้านบาร์เรล มาแตะที่ระดับ 449.9 ล้านบาร์เรล ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.7 ล้านบาร์เรล
อุปสงค์น้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับตัวลดลง เนื่องจากโรงกลั่นน้ำมันเข้าสู่ช่วงฤดูกาลปิดซ่อมบำรุง ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ประกาศออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ ส่งผลให้นักลงทุนกังวลต่ออุปสงค์น้ำมันดิบที่อาจปรับตัวลดลง โดยตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ ในเดือน ก.พ. 62 ปรับเพิ่มขึ้นพียง 20,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นการขยายตัวที่ต่ำสุดตั้งแต่เดือน ก.ย. 60
จับตาผลสรุปของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่มีแนวโน้มยืดเยื้อ หลังประธานาธิบดีสหรัฐฯ และจีนเลื่อนกำหนดการพบกันเพื่อสรุปเกี่ยวกับการเจรจาการค้าออกไปเป็นเดือน เม.ย. 62 เป็นอย่างน้อย แต่ยังไม่มีรายละเอียดถึงวันและเวลาของการเจรจาการค้าที่แน่ชัด
ติดตามทิศทางการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบของผู้ผลิตกลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตรที่มีสัญญาณว่าต้องการจะปรับลดกำลังการผลิตเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาด
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ การประกาศทิศทางตัวเลขเศรษฐกิจจากการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) การประกาศอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสหรัฐฯ และดัชนีภาคการบริการยูโรโซน
สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (11 - 15 มี.ค. 62)
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับเพิ่มขึ้น 2.45 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 58.52 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ในขณะที่ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับเพิ่มขึ้น 1.42 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 67.16 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบปิดเฉลี่ยอยู่ที่ 67.65 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล หลังได้รับแรงสนับสนุนจากซาอุดิอาระเบียที่ได้ปรับลดกำลังการผลิตในเดือน ก.พ. 62 ลงมาอยู่ที่ระดับ 10.14 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งต่ำกว่าระดับที่ได้ทำข้อตกลงไว้กับกลุ่มโอเปกพลัสไว้ที่ 10.31 ล้านบาร์เรลต่อวัน นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังได้รับปัจจัยบวกจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่ปรับลดลงสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับเพิ่มขึ้น ประกอบกับ การส่งออกน้ำมันดิบในเวเนซุเอลาประสบปัญหา หลังระบบไฟฟ้าพื้นฐานภายในประเทศขัดข้อง ส่งผลทำให้ไม่สามารถส่งออกน้ำมันดิบผ่านท่าขนส่งหลักของประเทศได้
Click Donate Support Web