- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Friday, 08 March 2019 20:01
- Hits: 4119
'ไอเจน'คว้างานกฟภ.มูลค่าเฉียด 200 ล้านโครงการนำสายไฟลงใต้ดินหาดป่าตองภูเก็ต
'ไอเจน' ซึ่งเป็นบริษัทร่วมของมิลล์คอนสตีล เซ็นสัญญากับ กฟภ. คว้างานประมูลโครงการนำสายไฟฟ้าลงใต้ดิน หาดป่าตอง ภูเก็ต มูลค่ากว่า 199 ล้านบาท เปิดแผนปีนี้เจาะโครงการขนาดใหญ่ใน 3 ธุรกิจหลัก งานสร้างสถานีไฟฟ้าย่อย งานพัฒนาระบบโครงข่ายสายส่งอัจฉริยะ และโครงการการนำสายไฟฟ้าลงใต้ดิน หวังเติบโตก้าวกระโดด-ยั่งยืน ลั่นปีนี้รายได้ทั้งกลุ่มทะลุ 1.5 พันล้านบาท
นายพีรยศ รุจิเทศ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอเจน เอนจิเนียริ่ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนของบริษัทมิลล์คอนสตีล จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้มีการลงนามในสัญญาร่วมกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.)ในการว่าจ้างให้บริษัทก่อสร้างปรับปรุงโครงการนำสายไฟฟ้าลงใต้ดิน บริเวณหาดป่าตอง ภูเก็ต มูลค่า 199 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่จะผลักดันให้บริษัทมีการเติบโตอย่างรวดเร็วและแข็งแกร่งในอนาคต จากก่อนหน้านี้ที่บริษัทรประสบความสำเร็จในการประมูลงานสถานีไฟฟ้าย่อยและงานปรับปรุงโครงข่ายสถานีไฟฟ้าสู่โครงข่ายอัจฉริยะหรือระบบ Smartgrid ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในปีที่ผ่านมา
นายพีรยศ กล่าวต่อว่า ในปีนี้ บริษัทไอเจน เอนจิเนียริ่ง จำกัด เตรียมที่จะเข้าร่วมประมูลงานในธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญ 3 ธุรกิจหลักประกอบด้วย งานสร้างสถานีไฟฟ้าย่อย งานพัฒนาระบบโครงข่ายสายส่งอัจฉริยะ และงานปรับปรุงภูมิทัศน์โดยการนำสายไฟฟ้าลงใต้ดิน คาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ มูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท และในภาพรวมของการรับรู้รายได้ของกลุ่มบริษัทไอเจนฯ ซึ่งจะมีบริษัทลูกอีกสองบริษัทอันได้แก่ บริษัทไอเจน พาวเวอร์เทค และบริษัทไอเจน เอเนอร์ยี่ ซึ่งเมื่อรวมกันแล้วจะมีรายได้รวมไม่ต่ำกว่า 1,500 ล้านบาท ในปี 2019 นี้
กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอเจน เอนจิเนียริ่ง จำกัด กล่าวต่อว่า กุญแจสำคัญอีกประการที่จะสร้างรายได้ให้กับกลุ่มไอเจนฯมีการเติบโตแบบก้าวกระโดดในอนาคต คือ บริษัท ไอเจน พาวเวอร์เทค จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานผลิตแท่งตัวนำหุ้มด้วยโครงอลูมิเนียมหรือที่เรารู้จักกันในนามบัสดัค(Busduct) มีคุณสมบัติสามารถส่งผ่านกระแสไฟจำนวนมากเพื่อใช้ในอาคารหรือโรงงานขนาดใหญ่ ซึ่งตัวบัสดัคนี้มี
คุณสมบัติเด่นที่การใช้พื้นที่ในการติดตั้งน้อยกว่าสายไฟ ปลอดมลพิษในขณะเกิดเหตุเพลิงไหม้และไม่ติดไฟ ติดตั้งง่ายและที่สำคัญคือ โรงงานไอเจน พาวเวอร์เทค เป็นโรงงานบัสดัคที่ได้มาตรฐานระดับโลกแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ซึ่งขณะนี้โรงงานได้สร้างเสร็จและสามารถเริ่มผลิตสินค้าออกสู่ตลาด โดยมีตลาดรองรับทั้งในประเทศและต่างประเทศรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาทต่อปีและคาดว่าจะทำรายได้มากกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปีภายใน 3-4 ปี
ในส่วนของบริษัท ไอเจน เอเนอร์ยี่ จำกัด ได้เริ่มจากการทดลองทำ Solar Rooftop ขนาดเล็กและขายไฟที่ราคาส่งเสริมแบบ FIT ที่ 6.20 บาทต่อหน่วย มีรายได้โดยรวมประมาณสองล้านบาทต่อปีและยังได้สัญญาดูแลโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 27 เมกกะวัตต์ ให้กับบริษัทสยามโซล่าร์ เจนเนอเรชั่น นอกจากนี้ยังมีโครงการที่จะเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าบนหลังคาเพื่อขายให้กับผู้ใช้เป็นการภายใน (Self-consumption) ซึ่งได้มีการเซ็นสัญญากับกลุ่มลูกค้าแล้วประมาณ 5 เมกกะวัตต์ คาดว่า ไอเจน เอเนอร์ยี่ จะหนุนรายได้ให้กับกลุ่มไอเจนอีกไม่น้อยกว่า 200 ล้านบาทในปีนี้
“จุดแข็งที่ทำให้กลุ่มไอเจน มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดและยั่งยืน คือการดำเนินธุรกิจและมีตลาดรองรับที่ชัดเจน ทีมงานมีประสบการณ์จากบริษัทด้านวิศวกรรมระดับโลก มีพันธมิตรที่แข็งแกร่ง คือกลุ่มบริษัทมิลคอนสตีล จำกัด(มหาชน) และ บริษัทไดเมท จำกัด(มหาชน)
สำหรับ ฐานลูกค้าหลักของบริษัทประกอบด้วย 1.กลุ่มโรงเหล็กในกลุ่มมิลคอน สตีล 2.การไฟฟ้าฝ่ายผลิต นครหลวง และ ภูมิภาค 3.ผู้รับเหมาอาคารสูง 4.โรงงานเอกชน 5.องค์กรบริหารท้องถิ่น
Click Donate Support Web