- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Wednesday, 06 March 2019 20:18
- Hits: 6263
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ และเวสต์เท็กซัสเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย หลังตลาดรอบทสรุปของสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน
+/- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์และเวสต์เท็กซัสเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย หลังนักลงทุนยังรอผลสรุปสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน หลังการเจรจามีแนวโน้มที่จะตกลงกันได้ภายในเดือนนี้ โดยการประชุมอย่างเป็นทางการจะเกิดขึ้นอีกครั้งในช่วงวันที่ 27 มี.ค. นี้
+ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ยังได้รับแรงหนุนจากการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบของผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปก โดยรัสเซียเตรียมที่จะลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบมากขึ้นในเดือน มี.ค. 62 นี้ ทั้งนี้หลังมีข้อตกลงการปรับลดกำลังการผลิตตั้งแต่ ม.ค. 62 ราคาน้ำมันดิบได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 20 ในปีนี้
- การเติบโตของความต้องการน้ำมันโลกในปี 2562 คาดว่าจะชะลอตัวลง หลังรัฐบาลจีนได้ปรับลดเป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจจีนลงเหลือเพียงร้อยละ 6.0-6.5 จากปีก่อนหน้าที่เติบโตในระดับร้อยละ 6.6 ซึ่งเป็นระดับที่ชะลอตัวที่สุดในรอบเกือบ 30 ปี ทั้งนี้ประเทศจีนเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบอันดับ 1 ของโลกในปัจจุบัน
- หลังตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานของสหรัฐฯ (API) ได้เผยตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่าปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.3 ล้านบาร์เรลขึ้นไปแตะระดับ 451.5 ล้านบาร์เรลมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล โดยตัวเลขอย่างเป็นทางการของสถาบันสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) จะประกาศในวันนี้
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ ถึงแม้ว่าอุปทานจากประเทศญี่ปุ่นปรับตัวลดลงหลังมีโรงกลั่นปิดซ่อมบำรุงและอุปสงค์ในภูมิภาคเพิ่มขึ้นจากประเทศมาเลเซียและอินโดนีเซียก็ตาม
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปทานในภูมิภาคมากกว่าที่คาดการณ์ หลังโรงกลั่นน้ำมันบางส่วนในภูมิภาคได้เลื่อนแผนการปิดซ่อมบำรุงไปเดือนหน้า
ไทยออยล์ คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 54-59 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 63-68 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ คาดปรับตัวลดลง หลังสหรัฐฯ นำเข้าน้ำมันดิบน้อยลง เนื่องจาก ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบจากผู้ผลิตในกลุ่มโอเปกปรับตัวลดลง ประกอบกับ โรงกลั่นในสหรัฐฯ บางส่วนเริ่มกลับมาจากการปิดซ่อมบำรุง ทำให้มีความต้องการใช้น้ำมันดิบเพื่อไปกลั่นมากขึ้น
จับตาการหารือกันระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ และนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เพื่อยุติปัญหาสงครามการค้าในช่วงปลายเดือนมี.ค. 62 หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเลื่อนการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนออกไปจากผลบังคับใช้เดิมในวันที่ 1 มี.ค. 62 ซึ่งหากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนยุติลง จะช่วยหนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกและความต้องการใช้น้ำมันโลก
กำลังการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจาก รัฐบาลลิเบียตกลงกับบริษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบีย (NOC) ที่จะให้แหล่งผลิตน้ำมันดิบ El Sharara ซึ่งมีกำลังการผลิต 315,000 บาร์เรลต่อวัน กลับมาดำเนินการอีกครั้ง หลังถูกปิดตั้งแต่เดือนธ.ค. 61
Click Donate Support Web