- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Tuesday, 23 September 2014 21:58
- Hits: 2748
ราคาน้ำมันดิบร่วง หลังตลาดกังวลเศรษฐกิจยุโรปและจีนที่ชะลอตัวจะกดดันอุปสงค์น้ำมัน
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลังตลาดกังวลเกี่ยวกับอุปทานที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่อุปสงค์ปรับตัวลดลงตามเศรษฐกิจยุโรปและจีนที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง โดยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยุโรป เดือน ก.ย. ปรับลดลงจากเดิม -10.0 มาอยู่ที่ -11.4 ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ตลาดกำลังจับตามองดัชนีภาคการผลิตของจีนซึ่งจะเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมจีนจะปรับตัวลดลงสู่ระดับ 50 ในเดือน ก.ย. จากระดับ 50.2 ในเดือน ส.ค. ซึ่งส่งผลต่อความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันที่จะน้อยลงไปด้วย
- รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของจีนได้เปิดเผยว่าจีนจะไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ แม้เศรษฐกิจจีนจะกำลังเผชิญภาวะช่วงขาลงก็ตาม ส่งผลให้ตลาดวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีนมากขึ้น เนื่องจากจีนเป็นประเทศผู้ใช้น้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก ถ้าหากอุปสงค์ปรับลดลงต่าไปกว่านี้ จะส่งผลกระทบต่อราคาน้ามันโดยตรง
- ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาชิคาโก เปิดเผยตัวเลขดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศเดือน ส.ค. ปรับลดลงเหลือ -0.21 จากเดิมในเดือน ก.ค. ที่ +0.26 ซึ่งดัชนีที่ต่ำกว่า 0 แสดงถึงกิจกรรมการผลิตที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย และบ่งชี้ถึงการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ
- ยอดขายบ้านมือสองสหรัฐฯ เดือน ส.ค. ลดลงครั้งแรกในรอบ 5 เดือน อยู่ที่ระดับ 5.05 ล้านยูนิต ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 5.20 ล้านยูนิต ซึ่งตัวเลขนี้แสดงถึงความอ่อนแรงของตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐฯ สะท้อนถึงเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวดีของสหรัฐฯ
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปทานที่ยังคงมีเหลือค่อนข้างมากในภูมิภาค อย่างไรก็ตามอุปสงค์จากอินโดนีเซีย, อินเดีย และแทนซาเนีย ยังคงช่วยหนุนราคาน้ำมันเบนซินไม่ให้ปรับลดลงไปมากนัก
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดลงสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดยังคงซบเซา เนื่องจากอุปสงค์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงเงียบเหงา นอกจากนี้อุปทานในอินเดียที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นยังกดดันตลาดน้ำมันดีเซลอีกด้วย
ทิศทางราคาน้ำมันดิบ
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 90-96 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 96-102 เหรียญฯ
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
จีดีพีไตรมาส 2/57 ของสหรัฐฯ จะประกาศเป็นครั้งที่ 3 ในวันที่ 26 ก.ย.นี้ คาดการณ์ว่าจะมีการปรับเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อยอยู่ที่เติบโต 4.5% จากเติบโต 4.2% ในการประกาศครั้งก่อนหน้า ซึ่งตลาดคาดอาจส่งแรงหนุนต่อราคาน้ามัน
จับตาท่าทีการปรับลดกาลังผลิตของกลุ่ม OPEC ว่าจะออกมาทิศทางใด หลังมีกระแสข่าวออกมาว่าOPEC มีแผนปรับลดกาลังการผลิตลง 0.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ 29.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในปี 2558 โดยการหารือหลักอาจเกิดขึ้นในการประชุมกลุ่มวันที่ 27 พ.ย. นี้
สถานการณ์ความไม่สงบในลิเบียจะกระทบต่ออุปทานน้ามันดิบมากน้อยเพียงใด หลังพื้นที่ใกล้โรงกลั่น Zawiya ซึ่งรับน้ามันจากแหล่งน้ามันดิบ El Sharara ถูกยิงโดยขีปนาวุธจากการสู้รบระหว่างรัฐบาลและกองกาลังติดอาวุธ ส่งผลให้แหล่งน้ามันดังกล่าวต้องลดกาลังการผลิตลง ล่าสุดการผลิตน้ามันของประเทศปรับลดลงไปอยู่ที่ระดับ 670,000 บาร์เรลต่อวัน