- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Monday, 22 September 2014 22:18
- Hits: 2897
ส.อ.ท. เตรียมเสนอ รมว.พลังงาน วันนี้ขอใช้ระบบสนับสนุนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนในรูปแบบแอดเดอร์
นายพิชัย ถิ่นสันติสุข ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ส.อ.ท.เตรียมยื่นหนังสือถึงนายณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในวันนี้(22 ก.ย.)โดยขอให้ปรับเปลี่ยนนโยบายส่งเสริมพลังงานทดแทน ที่ยกเลิกเงินสนับสนุนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนในรูปแบบแอดเดอร์ หรือ เงินส่วนเพิ่มในการรับซื้อไฟฟ้า และเปลี่ยนมาเป็นระบบฟีทอินทารีฟ หรือ การให้เงินสนับสนุนตามต้นทุนที่แท้จริงระยะ 25 ปี
ส.อ.ท.มองว่าระบบแอดเดอร์เดิมมีความเหมาะสมอยู่แล้ว โดยรัฐอาจปรับเปลี่ยนรายละเอียดบ้าง ขณะที่ระบบฟีทอินทารีฟ มีข้อเสียตรงที่การกำหนดให้เงินสนับสนุนคงที่ระยะยาว 25 ปี ส่งผลให้เกิดการบิดเบือนกลไกตลาด เพราะในอนาคตเทคโนโลยีพลังงานทดแทนเกิดการเปลี่ยนแปลง ทำให้ต้นทุนการผลิตของผู้ประกอบการแพงขึ้นหรือถูกลงได้
"การกำหนดราคาตายตัวระยะยาว 25 ปี จะกลายเป็นความเสี่ยงของภาคเอกชนให้ต้องแบกรับภาระในอนาคตได้ ปัจจุบันสถาบันการเงินไม่กล้าปล่อยกู้ให้กับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ที่ได้รับเงินสนับสนุนฟีทอินทารีฟ และราคาวัสดุอุปกรณ์ด้านพลังงานทดแทนอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงในอนาคต ซึ่งกระทรวงพลังงานยังไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะคาดการณ์ราคาระยะยาวได้"นายพิชัย กล่าว
นอกจากนี้ ส.อ.ท.ยังขอให้ปรับอัตราเงินค่าแอดเดอร์ใหม่ใน 5 เชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า ได้แก่ 1. การผลิตไฟฟ้าจากชีวมวล ขอให้เพิ่มค่าแอดเดอร์จาก 30 สตางค์ต่อหน่วย เป็น 1 บาทต่อหน่วย 2.การผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพหรือ ไบโอแก๊สจากน้ำเสีย ขอให้เพิ่มค่าแอดเดอร์จาก 50 สตางค์ต่อหน่วยเป็น 1 บาทต่อหน่วย 3.การผลิตไฟฟ้าจากหญ้าเนเปียร์ ควรให้ค่าแอดเดอร์ 3.50 บาทต่อหน่วย
4.การผลิตไฟฟ้าจากขยะ ให้ค่าแอดเดอร์เท่าเดิม 3.50 บาทต่อหน่วย แต่ให้ปรับเปลี่ยนระยะเวลาการให้จาก 7 ปี เป็น 10 ปี และ 5.การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม เสนอให้กำหนดค่าแอดเดอร์เป็นราคาเดียวที่ 4.50 บาทต่อหน่วย จากเดิมกำหนดแอดเดอร์ให้พลังงานลมขนาดใหญ่ 3.50 บาทต่อหน่วย ขนาดเล็ก 4.50 บาทต่อหน่วย
นายพิชัย กล่าวว่า ส.อ.ท.เชื่อว่าอัตราที่ภาคเอกชนเสนอให้ปรับเปลี่ยนใหม่นี้ จะช่วยส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนให้เพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่มีผู้ประกอบการรายเล็กมาก(วีเอสพีพี)ที่ผลิตไฟฟ้าไม่เกิน 10 เมกะวัตต์ ยื่นและทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(พีอีเอ)ไว้ทั้งสิ้น 1,813 เมกะวัตต์ แต่สามารถผลิตได้จริงมีเพียง 721 เมกะวัตต์ หากปรับระบบแอดเดอร์ใหม่จะช่วยสร้างแรงจูงใจให้ผู้ผลิตสนใจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนได้มากขึ้นในอนาคต
"ภาคเอกชนเชื่อว่าระบบแอดเดอร์ดีอยู่แล้วเพียงปรับเงื่อนไขรายละเอียดเล็กน้อยจะจูงใจให้เกิดการผลิตไฟฟ้าพลังงานได้มากกว่าระบบฟีทอินทารีฟ"
ส.อ.ท.ยังเสนอให้ปรับสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ใหม่ จากปัจจุบันที่มีการผลิตไฟฟ้าแสงอาทิตย์จากโซลาร์เซลล์บนหลังคา(โซลาร์รูฟท็อป)ไม่ถึง 10% ขณะที่การผลิตไฟฟ้าแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่(โซลาร์ฟาร์ม)มีสัดส่วนถึง 90% นั้น ควรปรับสัดส่วนให้เหมาะสมโดยเพิ่มโซลาร์รูฟท็อปเป็น 60% และลดโซลาร์ฟาร์มเหลือ 40% ของการผลิตไฟฟ้าแสงอาทิตย์ทั้งหมด เพื่อให้เกิดการส่งเสริมผลิตไฟฟ้าบนหลังคาให้มากขึ้น"
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
สภาอุตฯเบรก'ณรงค์ชัย'เปลี่ยนวิธีคำนวณค่าไฟฟ้า
แนวหน้า : นายพิชัย ถิ่นสันติสุข ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ส.อ.ท.จะยื่นหนังสือถึงนายณรงค์ชัย อัครเศรณี รมว.พลังงาน ในวันที่ 22 ก.ย. 2557 นี้ เพื่อขอให้ปรับเปลี่ยนแนวคิดของกระทรวงพลังงาน ที่จะยกเลิกการให้เงินสนับสนุนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนในรูปแบบแอดเดอร์( เงินส่วนเพิ่มในการรับซื้อไฟฟ้า) แล้วเปลี่ยนมาเป็นระบบฟีทอินทารีฟ หรือ การให้เงินสนับสนุนตามต้นทุนที่แท้จริงระยะยาว 25 ปี
ทั้งนี้ ส.อ.ท. เห็นว่าระบบแอดเดอร์เหมาะสมอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องปรับเปลี่ยนรายละเอียดบางประการ ขณะที่ระบบฟีทอินทารีฟมีข้อเสียตรงที่การกำหนดให้เงินสนับสนุนคงที่ระยะยาว 25 ปีนั้น จะส่งผลให้เกิดการบิดเบือนกลไกตลาด เนื่องจากในอนาคตราคาเทคโนโลยีพลังงานทดแทนอาจเกิดการเปลี่ยนแปลง ทำให้ต้นทุนการผลิตของผู้ประกอบการแพงขึ้นหรือถูกลงได้
“การกำหนดราคาตายตัวระยะยาว 25 ปี จะกลายเป็นความเสี่ยงของภาคเอกชนให้ต้องแบกรับภาระในอนาคตได้ และทำให้ปัจจุบันสถาบันการเงินไม่กล้าปล่อยกู้ให้กับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนที่ได้รับเงินสนับสนุนรูปแบบฟีทอินทารีฟด้วย นอกจากนี้ราคาวัสดุอุปกรณ์ด้านพลังงานทดแทนอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงในอนาคต ซึ่งกระทรวงพลังงานยังไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะคาดการณ์ราคาเทคโนโลยีระยะยาวได้”
นอกจากนี้ ส.อ.ท.ยังเสนอให้ปรับสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ใหม่ จากปัจจุบันที่มีการผลิตไฟฟ้าแสงอาทิตย์จากโซล่าร์เซลล์บนหลังคา(โซล่าร์รรูฟท็อป)ไม่ถึง 10% ขณะที่การผลิตไฟฟ้าแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่(โซล่าร์ฟาร์ม)มีสัดส่วนถึง 90% นั้น ควรปรับสัดส่วนให้เหมาะสมโดยเพิ่มโซล่าร์รูฟท็อปเป็น 60% และลดโซล่าร์ฟาร์มเหลือ 40% ของการผลิตไฟฟ้าแสงอาทิตย์ทั้งหมด เพื่อให้เกิดการส่งเสริมผลิตไฟฟ้าบนหลังคาให้มากขึ้นตามนโยบายรัฐต่อไป
ชง 'ณรงค์ชัย' ใช้ระบบแอดเดอร์
บ้านเมือง : นายพิชัย ถิ่นสันติสุข ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ส.อ.ท.ได้เข้ายื่นหนังสือถึงนายณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในวันที่ 22 ก.ย.นี้ เพื่อขอให้ปรับเปลี่ยนแนวคิดของกระทรวงพลังงาน ที่จะยกเลิกการให้เงินสนับสนุนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนในรูปแบบแอดเดอร์ หรือเงินส่วนเพิ่มในการรับซื้อไฟฟ้า และเปลี่ยนมาเป็นระบบฟีทอินทารีฟ หรือการให้เงินสนับสนุนตามต้นทุนที่แท้จริงระยะยาว 25 ปี
ทั้งนี้ ส.อ.ท.เห็นว่าระบบแอดเดอร์เหมาะสมอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องปรับเปลี่ยนรายละเอียดบางประการ ขณะที่ระบบฟีทอินทารีฟมีข้อเสียตรงที่การกำหนดให้เงินสนับสนุนคงที่ระยะยาว 25 ปีนั้น จะส่งผลให้เกิดการบิดเบือนกลไกตลาด เนื่องจากในอนาคตราคาเทคโนโลยีพลังงานทดแทนอาจเกิดการเปลี่ยนแปลง ทำให้ต้นทุนการผลิตของผู้ประกอบการแพงขึ้นหรือถูกลงได้
ดังนั้น การกำหนดราคาตายตัวระยะยาว 25 ปี จะกลายเป็นความเสี่ยงของภาคเอกชนให้ต้องแบกรับภาระในอนาคตได้ และทำให้ปัจจุบันสถาบันการเงินไม่กล้าปล่อยกู้ให้กับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนที่ได้รับเงินสนับสนุนรูปแบบฟีทอินทารีฟด้วย