- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Monday, 22 September 2014 21:55
- Hits: 2685
สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปประจำสัปดาห์ที่ 15-19 ก.ย.2557 และแนวโน้มในสัปดาห์ที่ 22 – 26 ก.ย. 2557
สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันดิบเบรนท์(Brent) ลดลง 0.12 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 98.40 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และน้ำมันดิบดูไบ (Dubai) ลดลง 1.66 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 95.38 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบเวสท์เท็กซัสฯ (WTI) เพิ่มขึ้น 1.1 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 93.54 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันเบนซินออกเทน 95 ลดลง 0.93 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 109.92 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และน้ำมันดีเซลลดลง 1.86 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 110.93 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปัจจัยที่ส่งผลกระทบได้แก่ :
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ
· กระทรวงพาณิชย์จีนรายงานยอดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนจากต่างประเทศ ในเดือน ส.ค. 57 ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 7.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือลดลงจากปีก่อน 14% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือน ก.พ. 55 และ สำนักสถิติแห่งชาติของจีนรายงานผลผลิตโรงงาน ของเดือน ส.ค. 57 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 6.9% ต่ำสุดในรอบ 6 ปี แสดงถึงเศรษฐกิจอันดับ 2 ของโลกกำลังสูญเสียแรงขับเคลื่อน
· Organization for Economic Cooperation and Development (OECD) ได้ปรับลดคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของยุโรปและสหรัฐฯ ในปี 57 โดยคาดว่า GDP ของยุโรปจะเพิ่มขึ้น 0.8% จากปีก่อน ลดลงจากที่คาดการณ์เดิมว่าจะเพิ่มขึ้น 1.2% และ GDP ของสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2.1% ลดลงจากที่คาดการณ์เดิมว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 2.6%
· กรมทรัพยากรธรณีของรัฐ North Dakota รายงานยอดผลิตน้ำมันดิบของรัฐในเดือน ก.ค. 57 เพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 34.4 ล้านบาร์เรลสูงสุดเป็นประวัติการณ์
· EIA รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์ สหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 12 ก.ย. 57 เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 3.7ล้านบาร์เรล อยู่ที่ 362.3 ล้านบาร์เรล เพิ่มขึ้นมากกว่าผลสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์ที่จัดทำโดย Bloomberg คาดการณ์
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก
· เลขาธิการของกลุ่ม OPEC นายอับดุลลาห์ อัล-บาดรี แถลงว่าจะมีวาระการหารือเรื่องการปรับลดเพดานการผลิตน้ำมันดิบของปี 2558 โดยอาจลดลง 0.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ 29.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในการประชุมวันที่ 27 พ.ย. 57 ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย
· สหรัฐฯ เพิ่มความรุนแรงของมาตรการคว่ำบาตรต่อภาคพลังงานรัสเซีย ประกอบด้วยบริษัท Gazprom, Gazprom Neft, Lukoil, Surgetneftegas และ Rosnef โดยห้ามไม่ให้บริษัทจากประเทศตะวันตกเข้าสนับสนุนโครงการสำรวจและผลิตน้ำมันดิบจากแหล่งน้ำลึก นอกฝั่ง Arctic รวมถึงแหล่ง Shale อื่นๆ
· สหรัฐฯ ซาอุดีอาระเบีย รัสเซียและประเทศอื่นๆ รวม 26 ประเทศ ได้ตกลงร่วมมือกันเพื่อต่อต้านกลุ่มรัฐอิสลาม (Islamic State) หรือ IS หลังจากตัวประกันชาวตะวันตกถูกประหาร อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรีซีเรียนาย บาซาร์ อัล-อัสซาด ยังไม่ให้ความร่วมมือต่อการทำสงครามที่กำลังประทุครั้งนี้
แนวโน้มราคาน้ำมันดิบ
ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับตัวลดลงเพราะอุปสงค์น้ำมันดิบโลกอ่อนแอจากความต้องการน้ำมันของยุโรปและเอเชียที่ไม่แข็งแกร่ง (OECD คาดการณ์เศรษฐกิจโลกล่าสุดสัปดาห์ก่อนระบุอัตราการเติบโตที่ 0.8% ลดลง 0.4% จากประมาณการณ์ครั้งก่อน) ขณะที่อุปทานน้ำมันดิบจาก Shale Oil ในสหรัฐฯ ยังคงมีปริมาณการผลิตระดับสูง ส่วนการผลิต Oil Sand ในแคนาดาซึ่งเป็น Unconventional Oil ที่เป็น Marginal Barrel กล่าวคือมีต้นทุนการผลิตสูง อาจต้องลดการผลิตหากราคาน้ำมันดิบจากตลาดโลกลดต่ำลง แต่ทว่า CEO ของบริษัท Cenovus Energy ผู้ผลิต Oil Sand รายใหญ่ของแคนาดา ระบุว่าบริษัทไม่ปรับลดปริมาณการผลิต Oil sand ณ ขณะนี้ เพราะแรงหนุนจากอุปสงค์ในประเทศ ผนวกกับเงินแคนาดาที่อ่อนค่าเกื้อหนุนการส่งออก ทำให้อุปทานน้ำมันดิบในตลาดโลกยังอยู่ในระดับสูง นอกจากนี้ปัจจัยด้านค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่แข็งค่าขึ้น กระทบอุปสงค์น้ำมันดิบเพราะราคานำเข้าน้ำมันดิบเมื่อคิดเป็นสกุลเงินของประเทศผู้นำเข้าเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม OPEC กำลังพิจารณาปรับลดเพดานการผลิตน้ำมันดิบ เพราะราคาน้ำมันดิบ Brent ลดลงต่ำกว่าเป้าหมายของกลุ่มที่ 100 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ในการประชุมของกลุ่มครั้งต่อไปนี้ วันที่ 27 พ.ย. 57 นี้ ซึ่งนาย Abdullah Badri เลขาธิการ OPEC เห็นว่ากลุ่มน่าจะลดเพดานการผลิตของปี 2558 ลงสู่ 29.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากระดับปัจจุบัน 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ด้านการเคลื่อนไหวของนักลงทุน Commodity Futures Trading Commission (CFCT) รายงานการลงทุนสัญญาน้ำมันดิบ WTI ในตลาดซื้อขายล่วงหน้า NYMEX ที่นิวยอร์ก และ ICE ที่ลอนดอน ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 16 ก.ย. 57 เพิ่มขึ้น 23,763 สัญญา สู่ระดับ 218,504 สัญญา ให้จับตาปฎิกริยาของรัสเซียต่อมาตรการคว่ำบาตรล่าสุดของสหรัฐฯ ซึ่งบริษัท Exxon ต้องหยุดการขุดเจาะในแหล่งน้ำมันที่รัสเซียดำเนินการภายในวันที่ 26 ก.ย. นี้ ทั้งนี้โฆษกรัฐสภารัสเซียให้สัมภาษณ์ระหว่างพิธีเปิดสมัยประชุมสภาล่างของรัฐเซียหรือ DUMA ว่ามาตรการดังกล่าวจะทำให้เกิดสงครามเย็นครั้งใหม่ ทางด้านกรอบความเคลื่อนไหวทางเทคนิคสัปดาห์นี้ ICE Brent อยู่ที่ 97.3-99.4 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล,ราคาน้ำมันดิบดูไบ อยู่ที่ 96.0 - 98.1เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และ WTI NYMEX อยู่ที่ 91.4-93.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
สถานการณ์ราคาน้ำมันเบนซิน
สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันเบนซินปรับลดลงจาก IES รายงานปริมาณสำรองของสิงคโปร์ Light Distillates เชิงพาณิชย์ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 17 ก.ย. 57 เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 0.24 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 11.97 ล้านบาร์เรล สูงสุดในรอบ 3 เดือน ประกอบกับ ความต้องการ Gasoline ในยุโรปอ่อนตัว ผนวกกับโรงกลั่นในสหรัฐฯ เพิ่มกำลังการกลั่นและปริมาณสำรองส่งผลให้ Arbritrage จากยุโรปสู่สหรัฐฯ ปิด อย่างไรก็ตาม Pertamina ของอินโดนีเซียมีแผนหยุดดำเนินการเพื่อซ่อมบำรุงโรงกลั่น Cilacap (กำลังการกลั่น 348,000 บาร์เรลต่อวัน) ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย. 57 เป็นเวลา 35 วัน และหยุดดำเนินการหน่วยปรับปรุงคุณภาพน้ำมันของโรงกลั่น Balikpapan (กำลังการกลั่น 260,000 บาร์เรลต่อวัน) ตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย. 57 เป็นเวลา 12 วัน จะเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาเบนซิน ในสัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันเบนซินจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 109 -112 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
สถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันเบนซินสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับลดลงจาก Essar Oil Ltd. ของอินเดียออกประมูลขายน้ำมันดีเซลชนิด 0.05 %S ปริมาณ 530,000 บาร์เรล ส่งมอบวันที 10-14 ต.ค. 57 เนื่องจากเหตุการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่ในประเทศ ส่งผลให้อุปสงค์น้ำมัน Gasoil ที่เป็นพลังงานหลักของอินเดียลดลง และ IES รายงานปริมาณสำรองของสิงคโปร์ Middle Distillates เชิงพาณิชย์ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 17 ก.ย. 57 เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 1.41 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 11.59 ล้านบาร์เรล อยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์
สำหรับ ในสัปดาห์นี้โรงกลั่น Mailiao (540,000 บาร์เรลต่อวัน) ในไต้หวันจะลดอัตราการเดินเครื่องในเดือน ก.ย. 57 ลงจากเดือนก่อน 1 % - 4 % อยู่ที่ระดับ 92 % หรือ 500,000 บาร์เรลต่อวัน ผนวกกับแรงซื้อจากอียิปต์ที่แถลงความต้องการใช้น้ำมันสำเร็จรูป รวมถึง Diesel เร่งด่วน คาดว่าราคาน้ำมันดีเซลจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 111.6-113.7 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล