- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Friday, 14 December 2018 13:44
- Hits: 4594
ไทย – ลาว ร่วมใจ จัดงานครบรอบ 50 ปี สานสัมพันธ์ด้านพลังงาน จากสายส่งไฟฟ้าแรงสูงต้นแรก สู่การพัฒนาสายส่งไฟฟ้าอาเซียนในอนาคต
ไทย – ลาว ร่วมใจ จัดงาน '50 ปี สายส่ง สานสัมพันธ์ พลังงาน ลาว - ไทย มั่นยืน'รำลึกเหตุการณ์สำคัญ ในอดีต จุดเริ่มต้นสัมพันธภาพพลังงานไฟฟ้าสองฝั่งโขง พร้อมผนึกพลังสานต่อความมั่นคงไฟฟ้าสู่อาเซียนในอนาคต และร่วมอนุรักษ์และปลูกฝังการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการใช้หลอด LED ประหยัดพลังงาน เพื่อมุ่งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนของประชาชนสองฝั่งโขง
นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า ประเทศไทยและ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว) มีความสัมพันธ์ด้านพลังงานกันมายาวนานนับจากวันที่ 16 ธันวาคม 2511 ซึ่งถือเป็นวันสำคัญทางประวัติศาสตร์ ด้วยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นประธานในพิธีเปิดสายส่งไฟฟ้าแรงสูงจากฝั่งไทย (จ.หนองคาย) ข้ามไปยังฝั่งลาว (นครหลวงเวียงจันทน์) ร่วมกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าชีวิตศรีสว่างวัฒนา แห่งราชอาณาจักรลาว ณ แพปะรำพิธีกลางแม่น้ำโขง จ.หนองคาย นับเป็นครั้งแรกของอาเซียนที่มีการเชื่อมโยงระบบไฟฟ้าระหว่างประเทศ จากวันนั้นจนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 50 ปีที่ไทยและสปป.ลาว ได้ร่วมมือเชื่อมระบบไฟฟ้าระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งการพัฒนาระบบส่งไฟฟ้า การพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้า การซื้อขายไฟฟ้า การแลกเปลี่ยนความร่วมมือด้านเทคนิควิชาการ การพัฒนาบุคลากรระหว่างการไฟฟ้าของทั้งสองประเทศ
โดยปัจจุบันได้ขยายการรับซื้อไฟฟ้าจาก 1,500 เมกะวัตต์ เมื่อปี 2536 เป็น 9,000 เมกะวัตต์ รวมทั้งมีการพัฒนาการเชื่อมโยงโครงข่ายระบบไฟฟ้าของทั้งสองประเทศเข้าด้วยกัน โดยเชื่อมโยงสายส่งระหว่าง กฟผ. – รัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว (ฟฟล.) ทั้งหมด 6 จุด ได้แก่ ท่าแขก-นครพนม 22 kV., สะหวันนะเขด-มุกดาหาร 22 kV.,โพนต้อง-หนองคาย 115 kV., บังเยาะ-สิรินธร 115 kV., ปากบ่อ-มุกดาหาร 115 kV. และท่าแขก-นครพนม 115 kV. และมีการเชื่อมโยงสายส่งไทย - สปป.ลาว เพื่อรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระ (IPP) ในสปป.ลาว เช่น โรงไฟฟ้าเทิน-หินบุน, โรงไฟฟ้าห้วยเฮาะ, โรงไฟฟ้าน้ำเทิน 2,โรงไฟฟ้าน้ำงึม 2, โรงไฟฟ้าหงสา เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาให้เกิดการเชื่อมโยงเครือข่ายระบบไฟฟ้าทั่วทั้งอาเซียน (ASEAN Power Grid) โดยมีโครงการซื้อขายไฟฟ้าสปป.ลาว – ไทย – มาเลเซีย โดยสปป.ลาว ขายไฟฟ้าให้มาเลเซียผ่านระบบส่งไฟฟ้าของไทยไม่เกิน 100 เมกะวัตต์ เริ่มนำร่องตั้งแต่เดือนมกราคม 2561 และภายหลังจากการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน ครั้งที่ 36 (AMEM) เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา สปป.ลาว – ไทย – มาเลเซีย ได้ตกลงขยายกรอบความร่วมมือพหุภาคีโครงการซื้อขายไฟฟ้า โดยจะเพิ่มปริมาณการรับซื้อไฟฟ้าจาก 100 เมกะวัตต์ เป็น 300 เมกะวัตต์ ซึ่งจะเป็นการเชื่อมโยงระบบไฟฟ้า 4 ประเทศ จากสปป.ลาวไปสิงคโปร์ โดยผ่านระบบสายส่งของไทยและมาเลเซีย นับเป็นก้าวสำคัญของการซื้อขายไฟฟ้าระหว่างอาเซียนอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อความมั่นคงด้านพลังงานและการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะทำให้ประเทศต่าง ๆ ทั่วทั้งภูมิภาคนี้สามารถพึ่งพากันได้ในด้านพลังงาน และผลักดันเศรษฐกิจในภูมิภาคให้เจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน
ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวต่อว่า ในปีนี้นับเป็นโอกาสพิเศษที่ครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ด้านพลังงานไทย-ลาว กระทรวงพลังงานของไทย และกระทรวงพลังงานและบ่อแร่ของสปป.ลาว พร้อมทั้ง กฟผ. ฟฟล. และ จ.หนองคาย ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมรำลึกถึงรัฐพิธีเปิดสายส่งไฟฟ้าแรงสูงต้นแรก โดยจัดงานขึ้นทั้งในฝั่งไทยและฝั่งลาว ระหว่างวันที่ 13 - 14 ธันวาคม 2561 ภายใต้ชื่องาน '50 ปี สายส่ง สานสัมพันธ์ พลังงาน ลาว - ไทย มั่นยืน' โดยในวันที่ 13 ธันวาคม 2561 กิจกรรมช่วงเช้าในฝั่งไทย ได้แก่ กิจกรรมนุ่งไทยใส่บาตรริมแม่น้ำโขง ที่ชุมชนตลาดท่าเสด็จ จ.หนองคาย เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลฯ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และพิธีเปิดนิทรรศการ '50 ปี ท่าเสด็จรำลึก ดุจแสงทองสาดส่องสองฝั่งโขงมหานที'ณ ชุมชนตลาดท่าเสด็จ อ.เมือง จ.หนองคาย เพื่อรำลึกถึงรัฐพิธีเปิดสายส่งไฟฟ้าแรงสูง และพระราชกรณียกิจเกี่ยวกับกิจการด้านพลังงาน รวมถึงวิถีชีวิตของประชาชนริมฝั่งแม่น้ำโขงตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีพิธีรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ในหลวง ร.9 โดยได้รับเกียรติจาก อ.เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ และ อ.ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี ศิลปินแห่งชาติ ร่วมกันขับลำนำบทสดุดีกวีรำลึก และมีกิจกรรมจากชุมชนตลาดท่าเสด็จอีกมากมาย โดยนิทรรศการดังกล่าวจะเปิดให้ประชาชนเข้าชมได้ ระหว่างวันที่ 13-16 ธันวาคม 2561
สำหรับ กิจกรรมช่วงบ่ายจัดขึ้นที่ฝั่ง สปป.ลาว ดร.ศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานไทย ท่านปริญญาเอกคำมะนี อินทิลาด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและบ่อแร่สปป.ลาว ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขไทย ดร.สนอง ทองซะนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมิตรภาพ พร้อมด้วยปลัดกระทรวงพลังงานไทย เอกอัครราชทูตไทยประจำสปป.ลาว และผู้ว่าการ กฟผ. ร่วมกิจกรรม “ร่วมประหยัดพลังงานวันนี้ เพื่ออนาคตและสิ่งแวดล้อมที่ดีวันหน้า” โดยร่วมเปลี่ยนหลอด LED ประหยัดพลังงาน ณ โรงพยาบาลมิตรภาพ นครหลวงเวียงจันทน์ ทั้งนี้ กฟผ. สนับสนุนงบประมาณ จำนวน 1,652,240 บาท บาท เพื่อเปลี่ยนหลอด LED ประหยัดพลังงาน จำนวน 4,793 หลอด ซึ่งภายหลังการติดตั้งแล้วเสร็จจะช่วยให้โรงพยาบาลมิตรภาพสามารถประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้ประมาณ 393,816 หน่วยต่อปี คิดเป็นค่าไฟฟ้าที่ลดลงประมาณ 1,070,597 บาทต่อปี และช่วยบรรเทาปัญหาภาวะโลกร้อน ด้วยการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 257 ตันต่อปี นับเป็นการส่งเสริมให้เกิดการใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นพื้นฐานการพัฒนาที่ยั่งยืนให้กับประชาชนทั้งสองฝั่งโขงในรุ่นต่อไป
ต่อมาในวันที่ 14 ธันวาคม 2561 ฯพณฯ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไทย และ ฯพณฯ ทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรีสปป.ลาว ให้เกียรติร่วมเปิดและชมนิทรรศการ'50 ปี ความมั่นคงจากอดีต ปัจจุบัน สู่อนาคต' พร้อมทั้งมีการเสวนาเชิงวิชาการ ภายใต้หัวข้อ 'ความมั่นคงจากเสาส่งต้นแรกสู่ปัจจุบัน และอนาคตที่มั่นยืน'โดยมีผู้ที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์รัฐพิธี เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2511 จากทั้งฝั่งไทยและสปป.ลาว ร่วมเสวนา ณ หอประชุมแห่งชาตินครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว
“50 ปี ความร่วมมือด้านพลังงานไฟฟ้าระหว่างไทยกับลาว ช่วยส่งเสริมให้ระบบไฟฟ้าของทั้งสองประเทศมีความมั่นคง เป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ และจะสานต่อความร่วมมือในการเชื่อมโยงโครงข่ายระบบไฟฟ้าของทั้งสองประเทศ เพื่อพัฒนาต่อยอดให้เกิดการเชื่อมโยงเครือข่ายระบบไฟฟ้าอาเซียน (ASEAN Power Grid) เชื่อมโยงถึงกันครอบคลุมทั้งภูมิภาค ซึ่งจะช่วยผลักดันเศรษฐกิจในภูมิภาคให้เจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต”นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวในที่สุด
Click Donate Support Web