- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Monday, 19 November 2018 19:28
- Hits: 9087
ราคาน้ำมันดิบคาดปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังโอเปกเตรียมแผนลดกำลังการผลิต
บทวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันประจำสัปดาห์ โดย บมจ.ไทยออยล์: ฉบับวันที่ 19 พฤศจิกายน 2561
ไทยออยล์ คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 54 - 59 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 64 - 69 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ (19 - 23 พ.ย. 61)
ราคาน้ำมันดิบคาดว่าจะได้รับแรงหนุน หลังกลุ่มโอเปกมีแผนที่จะลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบในปี 2562 เพื่อรักษาสมดุลของตลาดน้ำมันดิบ ประกอบกับ อุปสงค์น้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น หลังหมดช่วงปิดซ่อมบำรุงตามฤดูกาลของโรงกลั่น อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบคาดว่าจะได้รับแรงกดดัน จากการเติบโตของอุปสงค์น้ำมันดิบโลกในปีหน้าที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลง จากผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ และการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง ประกอบกับ อุปทานน้ำมันดิบในสหรัฐฯ มีแนวโน้มจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้:
อุปทานน้ำมันดิบโลกมีแนวโน้มปรับตัวลดลง หลังผู้ผลิตกลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตรมีการหารือถึงการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในปี 2562 ลง 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากระดับการผลิตในเดือน ต.ค. เพื่อรักษาสมดุลของตลาดน้ำมันดิบ หลังมองว่าปริมาณน้ำมันดิบอิหร่านที่ปรับลดลงจากผลของการคว่ำบาตรนั้นน้อยกว่าที่คาดไว้ เนื่องจากสหรัฐฯ ประกาศผ่อนผันให้ 8 ประเทศผู้นำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่าน สามารถนำเข้าน้ำมันดิบได้ในช่วง 180 วันแรกหลังการคว่ำบาตร โดยกลุ่มโอเปกจะกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันดิบสำหรับปี 2562 ในการประชุมที่เวียนนา ประเทศออสเตรีย ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 6 ธ.ค. 61 นี้
การเติบโตของอุปสงค์น้ำมันดิบโลกคาดว่าจะปรับลดลง หลังกลุ่มโอเปกเปิดเผยการคาดการณ์ประจำเดือน พ.ย. 61 ว่าอุปสงค์น้ำมันดิบในปี 2562 จะเติบโตที่ 1.29 ล้านบาร์เรลต่อวัน ปรับลดลงจากการคาดการณ์ในเดือน ต.ค. 61 ราว 70,000 บาร์เรลต่อวัน และนับเป็นการปรับการคาดการณ์ลงเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน โดยกลุ่มโอเปกคาดว่าอุปทานน้ำมันดิบจากประเทศนอกกลุ่มโอเปกจะมีปริมาณสูงกว่าอุปสงค์น้ำมันดิบของโลกในปีหน้า
ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ คาดจะปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) คาดว่า ปริมาณน้ำมันดิบจากแหล่งน้ำมันดิบชั้นหินดินดาน (Shale Oil) 7 แหล่ง ในประเทศสหรัฐฯ จะปรับเพิ่มขึ้นราว 113,000 บาร์เรลต่อวัน สู่ระดับ 7.94 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือน ธ.ค. 61 โดยได้รับแรงหนุนส่วนใหญ่จากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นจากแหล่งน้ำมันดิบ Permian ซึ่งคาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 63,000 บาร์เรลต่อวัน แตะระดับ 3.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือน ธ.ค. 61
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังกำลังการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น แตะระดับสูงสุดที่ 11.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่ EIA รายงานว่า ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 9 พ.ย. 61 ปรับเพิ่มขึ้นราว 10.3 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 442 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตามอุปสงค์น้ำมันดิบของสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น หลังโรงกลั่นกลับมาดำเนินการ ภายหลังช่วงปิดซ่อมบำรุงตามฤดูกาล
อุปทานน้ำมันดิบจากอิหร่านอาจไม่ได้ปรับตัวลดลงมากอย่างที่คาดไว้ ล่าสุด ปริมาณการส่งออกน้ำม้นดิบของอิหร่านปรับตัวลดลงเพียง 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับลดลงถึง 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยอิหร่านระบุว่า สหรัฐฯ ไม่สามารถลดปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านจนเหลือศูนย์ได้ เนื่องจากสหรัฐฯ ยังคงกังวลเกี่ยวกับราคาน้ำมันดิบที่อาจปรับตัวเพิ่มสูงเกินไป หากอุปทานจากอิหร่านขาดหายไป ประกอบกับ อิหร่านยังมีเส้นทางอื่นในการส่งออกน้ำมันดิบที่ไม่ละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคยูโรโซน ดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐฯ และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนสหรัฐฯ
สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (12 - 16 พ.ย. 61)
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลง 3.73 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 56.46 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ในขณะที่ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับลดลง 3.42 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 66.76 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบปิดเฉลี่ยอยู่ที่ 67 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล หลังได้รับแรงกดดันจากปริมาณการผลิตน้ำมันดิบและปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันดิบที่ล้นตลาด หลังทรัมป์ทวีตข้อความว่า กลุ่มโอเปกจะไม่ปรับลดกำลังการผลิตลง อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุน หลังกลุ่มโอเปกมีทีท่าที่จะลดกำลังการผลิตลง นอกจากนี้ ซาอุดิอาระเบียจะลดปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบในเดือน ธ.ค. 61 ลง 500,000 บาร์เรลต่อวัน จากปริมาณการส่งออกในเดือน พ.ย. 61
Click Donate Support Web